“เฟด” อาจชะลอเร่งขึ้นดอกเบี้ย ลุ้นบาทแข็งค่าต่อ-เงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทย

“เฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง” สัญญาณเตือนฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ทองคำวันนี้ลง 100 บาท เฟดยังขึ้นดอกเบี้ยแต่แนวโน้มชะลอลง

เมื่อวานนี้ (17 ส.ค. 65) ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ปรับตัวลงราว 0.5%-1.6% หลังจากรายงานการประชุมธนาคารการสหรัฐฯ หรือ เฟด (Fed) ระบุว่า กรรมการเฟด มีความมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงที่สุดเท่าที่จำเป็น จนกว่าจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยตระหนักว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง หรือ GDP Growth ติดลบต่อ

ด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางอาจพิจารณาหยุดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยชั่วคราวหลังการประชุมเดือน ก.ย. เพื่อประเมินผลกระทบของการตึงตัวต่อเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ

 

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเชียพลัส (ASPS) มองว่า ปัจจุบันหลายดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทั้งอัตราเงินเฟ้อสหรัฐเดือน ก.ค. ล่าสุด ปรับขึ้น +8.5%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +9.1%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวลงเช่นกัน ซึ่งทำให้ตลาดไม่ได้ตอบสนองกับประเด็นดังกล่าวมากนัก สังเกตจากค่าเงินดอลลาร์กับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) ที่ไม่ได้ขึ้นแรงอย่างมีนัยสำคัญ

โดยหากพิจารณา FED Watch tool เครื่องมือคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด พบว่ามีโอกาสถึง 65% ที่ เฟด จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% และ มีโอกาสเพียง 35% ที่ เฟด จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งหน้า

อย่างไรก็ตาม ผลสรุป เฟด ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย จากหลายตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้ค่าเงินดอลลาร์กับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ไม่ได้ดีดตัวแรงถือเป็นโอกาสที่จะเห็นค่าเงินบาทแข็งค่าต่อ ลุ้นเงินลงทุนไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ในปีนี้ต่างชาติทยอยเข้ามาสะสมหุ้นไทยต่อเนื่อง และหากพิจารณาสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของต่างชาติ ณ สิ้นเดือน ก.ค. 65 พบว่า สัดส่วนต่างชาติถือครองหุ้นไทยทางตรง เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 21.54% เช่นเดียวกับการถือครองผ่าน NVDR เพิ่มขึ้นเป็น 5.65% และหากรวมทั้ง 2 ส่วนตอนนี้ ต่างชาติถือหุ้นไทยในสัดส่วน 27.19% ยังมีช่องว่างให้เติมเต็มไปสู่ค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 32% แสดงให้เห็นว่าต่างชาติยังถือครองหุ้นไทยในสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับในอดีต

ฝ่ายวิจัย ASPS คาดว่า กระแสเงินลงทุน ยังมีโอกาสไหลเข้าหุ้นไทยต่อทั้งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งจะสวนทางกับเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วที่เริ่มชะลอ พร้อมกับกำไรของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2 ปี 2565 ที่ออกมาดีกว่าคาดมาก โดยจะนำไปสู่การปรับประมาณการกำไรขึ้น ขณะเดียวกันในเดือน ส.ค. 65 ต่างชาติกลับซื้อหุ้นไทยเพิ่มากถึง 3.5 หมื่นล้านบาท (mtd) จนทำให้มูลค่าซื้อสะสมตั้งแต่ต้นปีขยับขึ้นไปอยู่ที่ 1.52 แสนล้านบาท