ครม.ไฟเขียว AOT บริหาร 3 สนามบิน อุดรฯ-บุรีรัมย์-กระบี่ ตั้งงบพัฒนา 1 หมื่นล้าน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ครม.เห็นชอบให้ ทอท. บริหารจัดการท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และท่าอากาศยานกระบี่ แทนกรมท่าอากาศยาน พร้อมกรอบวงเงินลงทุนรวมประมาณ 10,000 ล้านบาท

AOT ขาดทุนลดลง 10% อานิสงส์เปิดประเทศ หนุนรายได้เที่ยวบิน-ผู้โดยสารเพิ่ม

AOT หั่นเป้าเที่ยวบิน-ผู้โดยสาร เหตุ "สงครามยูเครน-จีนล็อกดาวน์"ฉุด

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบให้ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. (AOT) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่เป็นหน่วยงานของรัฐ เข้าไปเป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และท่าอากาศยานกระบี่ แทนกรมท่าอากาศยาน (ทย.)

โดยท่าอากาศยานอุดรธานี จะมีบทบาทเป็นท่าอากาศยานหลักที่ทำหน้าที่เป็น Gateway  ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน สามารถตอบสนองความต้องการในการเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 

ซึ่ง ทอท.มีแนวทางการพัฒนาให้ท่าอากาศยานอุดรธานีเป็นท่าอากาศยานระดับภาค และท่าอากาศยานศูนย์กลางรองใน รวมถึงสามารถพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงร่วมกับท่าอากาศยานบุรีรัมย์ที่ทำหน้าที่เป็นท่าอากาศยานรองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง

 ขณะที่ท่าอากาศยานกระบี่ โดยจังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ตั้งอยู่กึ่งกลางของจังหวัดฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย สามารถตอบสนองนโยบายด้านการท่องเที่ยวได้ และท่าอากาศยานกระบี่ ยังสามารถเป็นท่าอากาศยานที่ช่วยบรรเทาปัญหาความแออัดของท่าอากาศยานภูเก็ต ที่มีข้อจำกัดด้านการขยายในการรอบรับปริมาณการจราจรทางอากาศทั้งภาคพื้นและภาคอากาศในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

ทั้งนี้ ทอท.ได้กำหนดแผนพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 3 แห่ง มีกรอบวงเงินลงทุนประมาณ 9,199.90 ล้านบาท (กรณีท่าอากาศยานพังงา เปิดให้บริการในปี 2574) หรือวงเงินลงทุนรวม 10,471 ล้านบาท (กรณีท่าอากาศยานพังงาไม่เปิดให้บริการ) แยกเป็น ท่าอากาศยานอุดรธานี กรอบวงเงินลงทุน 3,523 ล้านบาท  ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ 460 ล้านบาท และท่าอากาศยานกระบี่ กรณีท่าอากาศยานพังงาเปิดให้บริการในปี 2574 วงเงินลงทุนจะอยู่ที่ 5,216 ล้านบาท และกรณีท่าอากาศยานพังงาไม่เปิดให้บริการ วงเงินลงทุนจะอยู่ที่ 6,487 ล้านบาท

น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า จากการวิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวภายในปี 2567  หลังจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและการส่งเสริมการตลาดที่เน้นการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน จึงได้มีการทบทวนให้ทอท.เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลและบริหารจัดการท่าอากาศยานแทน ทย.จากเดิม 4 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานสกลนคร ท่าอากาศยานตาก และท่าอากาศยานชุมพร เปลี่ยนเป็น 3 แห่ง คือท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ และท่าอากาศยานกระบี่ เพื่อความเหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์ตามแนวคิดการพัฒนาโครงข่ายระบบท่าอากาศยานของประเทศในภาพรวมและการดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Cluster ด้านการขนส่งทางอากาศ

 

ช่วยค่าไฟยังไม่เข้า ครม. ยืนยันปีใหม่มีของขวัญให้คนไทยแน่นอน

เดือน ก.ค.ธุรกิจปิดกิจการกว่า 7,000 ล้านบาท ก่อสร้าง-ภัตตาคารมากสุด

เรื่องที่คุณอาจพลาด
วิดีโอยอดนิยม

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP หุ้น-การลงทุน

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ