ชำแหละ “SCB” เท “Bitkub” ตลาดมองดีลสุดแพง-กระทบชื่อเสียง
ไทยพาณิชย์ล้มดีล 1.78 หมื่นล้าน ซื้อ Bitkub เซ่นปมก.ล.ต.ลงโทษปรับ
โดยในวันที่มีข่าวดีลดังกล่าว (2 พ.ย.64) ส่งให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อเหรียญ KUB จนผลักดันราคาขึ้นแตะ 99.9 บาท หรือ +67.6% จากราคาเปิดที่ 32.3 บาท ด้วยความเชื่อมั่นว่าธุรกิจจะเติบโตในอนาคตภายใต้ SCB จากนั้นภายในเวลาเพียง 2 เดือน ราคาเหรียญ KUB พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ราคา 580 บาท ก่อนที่จะปรับลดลงต่อเนื่อง ตามตลาดคริปโทฯทั่วโลกที่เข้าสู่ขาลงจากภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง และการปรับขึ้นดอกเบี้ย
จนในที่สุดวันที่ 25 ส.ค. 65 เหรียญ KUB ก็ปรับลดลงมาแตะระดับ 43 บาท ซึ่งเป็นวันที่กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาประกาศล้มเลิกธุรกรรมการซื้อขายหุ้นใน Bitkub โดยรวมระยะเวลาร่วม 10 เดือน จากวันที่ประกาศดีล
ถึงแม้ SCB ได้เข้าสอบทานธุรกิจ Bitkub และไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด แต่ก็ให้เหตุผลว่า Bitkub ยังมีประเด็นคงค้างที่ต้องหาข้อสรุปตามคำสั่งการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ไทยพาณิชย์ล้มดีล 1.78 หมื่นล้าน ซื้อ Bitkub เซ่นปมก.ล.ต.ลงโทษปรับ
“แบงก์ชาติ” ชี้ SCB ไม่เคยขออนุญาตซื้อกิจการ Bitkub
การทำธุรกรรมใด ๆ ของธนาคารพาณิชย์ จะต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล และตรวจสอบสถาบันการเงินในไทยทั้งหมด แต่ ธปท. กลับยังไม่มีความเคลื่อนไหว หรือออกมาชี้แจงถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับดีล SCB และ Bitkub
ผ่านมาเกือบ 1 ปี จนมีการประกาศยุติดีล ธปท.จึงค่อยออกมาแถลงว่า กลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ ยังไม่เคยยื่นรายละเอียดคำขออนุญาตอย่างเป็นทางการมาก่อน รวมถึงได้รับทราบการยกเลิกดีลดังกล่าวก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า ธปท.ออกมาเคลื่อนไหวช้าเกินไปหรือไม่ เนื่องจากดีล SCB และ Bitkub ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน พร้อมทั้งสร้างความร้อนแรงให้กับเหรียญ KUB จนราคาพุ่งสูงไปหลายเท่าตัว
ธปท.รับทราบ SCBS ล้มดีล Bitkub เผย SCBX ไม่เคยยื่นรายละเอียด
จากรายงานสรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่า ตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นมาจนถึงวันที่ 23 ส.ค.65 สินทรัพย์ดิจิทัลที่ให้ผลตอบแทนติดลบมากที่สุดในไทย คือ เหรียญ KUB โดยให้ผลตอบแทนติดลบถึง 88.10% ดังนั้นหมายความว่าหากซื้อเหรียญ KUB ด้วยเงินลงทุน 1,000 บาท ตั้นแต่ต้นปี จะเหลือเงินลงทุนราว 119 บาท ในปัจจุบัน
“เหรียญ KUB” คุณสมบัติไม่ถึงเกณฑ์ คะแนนสูงผิดปกติ ก.ล.ต.สั่ง บิทคับ แก้ไข 30 วัน
ก.ล.ต.เดินหน้าฟัน Bitkub หลังพบความไม่โปร่งใส
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 65 ก.ล.ต. ได้สั่งลงโทษ นายสกลกรย์ สระกวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้มีอำนาจจัดการของ Bitkub ข้อหาจับคู่ซื้อขายกันเองในบัญชีซื้อขายเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีของตนเองในศูนย์ซื้อขาย Bitkub พร้อมกับสั่งปรับเป็นเงิน 8 ล้านบาท ลงโทษทางแพ่ง รวมถึงห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 12 เดือน
และในวันเดียวกัน ได้สั่งให้ Bitkub แก้ไขการคัดเลือกและอนุมัติเหรียญ KUB ในการเข้ามาซื้อขายในศูนย์ซื้อขายของตนเอง ภายใน 30 วัน เนื่องจากพบว่า Bitkub ให้คะแนนในเรื่องมาตรฐานเทคโนโลยีของโปรเจคในระดับที่สูงกว่ามาตรฐานและไม่เคยมีมาก่อน และยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามีเทคโนโลยีดังกล่าวอยู่จริง
ต่อมา 30 ส.ค. 65 ก.ล.ต.สั่งลงโทษ นายสำเร็จ วจนะเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (BBT) ในข้อหาซื้อเหรียญ KUB จำนวน 61,107.66 เหรียญ มูลค่า 1.99 ล้านบาท โดยใช้ข้อมูลภายใน ในช่วงเวลาหลังมีการเจรจาดีล SCB – Bitkub และก่อนเปิดเผยข่าวดังกล่าวออกมา ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้สั่งปรับเงินราว 8.5 ล้านบาท และห้ามเป็นกรรมการผู้บริหาร นาน 12 เดือน
ปรับบิ๊กบิทคับ 8.53 ล้านบาท ใช้ข้อมูลภายในซื้อขาย KUB ห้ามบริหาร 1 ปี
โดยนับตั้งแต่เริ่มวันที่ประกาศ และยุติดีล SCB – Bitkub สะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐ ยังต้องปรับปรุงมาตรการดูแลอีกจำนวนมาก เพื่อควบคุมการดำเนินงานของธุรกิจซื้อขายคริปโทฯในไทย ซึ่งสอดคล้องจากที่ ก.ล.ต. เพิ่งเปิดรับสมัครตำแหน่งงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อช่วง ก.ค. 65 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่ายังต้องพัฒนาบุคลากรอีกจำนวนมาก และยังไม่มีความพร้อมในการตรวจสอบธุรกรรมคริปโทฯอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ประเด็นที่ SCB ยังไม่ส่งรายละเอียดการขอซื้อ Bitkub นั้น ทาง ธปท.สามารถสอบถามความคืบหน้า และติดตามเรื่องนี้ได้ เพราะควรมีความเข้มงวดในการติดตามสถาบันการเงินภายใต้การกำลับดูแลของตนเอง และเพื่อป้องกันความเสียหายให้กับนักลงทุน จากข้อมูลข่าวที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง หรือข่าวปลอม