คาด CBG ได้อานิสงส์ค่าแรงขั้นต่ำ-ประเทศเพื่อนบ้านฟื้นตัว ช่วยหนุนกำไรปี 66


โดย PPTV Online

เผยแพร่




คาดการณ์กำไร CBG จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2566 โบรกมองได้แรงหนุนจากยอดขายเพิ่ม จากเศรษฐกิจฟื้นตัวในไทย และประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับเพิ่ม

ไทยพาณิชย์ ปันผล 6.1 หมื่นล้านบาท ให้ SCBX ใช้พัฒนาบริษัทลูก

ที่ปรึกษาการเงินอิสระ ชี้ไม่ควรขาย 3BB เหตุไร้แผนลงทุนต่อ-กสทช.ยังไม่อนุมัติ

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) เปิดเผยบทวิเคราะห์  บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด หรือ CBG โดยคาดการณ์ว่า กำไรในครึ่งหลังปี 65 จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก และปีก่อนหน้า มีสาเหตุมาจากรายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และต้นทุนที่มีแนวโน้มต่ำลง  

โดยรายได้ที่เติบโต มีปัจจัยหลักมาจากฐานที่ต่ำในช่วงไตรมาส 3 ปี64 ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาดทั้งในไทย และประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว  เมียนมา และเวียดนาม

ด้านยอดขายในไทย จะได้แรงหนุนจากนโยบายการปรับขึ้นต่าแรงขึ้นต่ำตั้งแต่ต้นไตรมาส 4/65 ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวกกับสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ รวมทั้งเครื่องดื่มชูกำลัง “คาราบาวแดง” ของบริษัท ที่เป็นสินค้าหลักและมีลูกค้าเป้าหมาย เป็นกลุ่มวัยทำงาน รายได้อยู่ในระดับต้น - กลาง รวมถึงบริษัทได้เปิดตัวสินค้าประเภทเครื่องดื่มชูกำลังตัวใหม่ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ค. 65 คาดน่าจะช่วยผลักดันยอดขายในไทยตั้งแต่ไตรมาส 3/655 เป็นต้นไป

ด้านยอดขายต่างประเทศคาดมีแนวโน้มดีขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยมาจากการขนส่งสินค้าที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น นอกจากนี้ยอดขายใน CLMV ที่เป็นตลาดหลักของกลุ่ม CBG คาดเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า ภายหลังมีการเปิดประเทศมากขึ้น รวมทั้งจีนที่ยอดขายของบริษัทช่วงต้นปี 65 ถูกกระทบจากการที่ต้องปรับเปลี่ยนฉลากสินค้า ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่ของจีน ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้วและเริ่มเห็นการฟื้นตัวชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส2 /65 2Q65

สำหรับด้านต้นทุน คาดจะเริ่มดูดีขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/65 เป็นต้นไป จากราคาอลูมิเนียมวัตถุดิบในการผลิตกระป๋อง ปัจจุบันเริ่มมีแนวโน้มลดลงแล้ว ซึ่งคาดจะชดเชยผลลบจากค่าไฟฟ้าและภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มตามปริมาณความหวานที่ปรับสูงขึ้นได้

คาดการณ์ปี 66 กำไรกลัมมาโต มาจาก 2 ปัจจัยหลัก

นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัย ASPS ได้คาดการณ์กำไรปี 2565 อยู่ที่ 2,900 ล้านบาท ทรงตัว -0.2% จากปีก่อน แต่จะกลับมาโตได้ในปี 2566 ที่ 3,600 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 11%

โดยมีสมมติฐานสำคัญ คาดการณ์ยอดขายในปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 2,300 ล้านบาท เติบโต +16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานต่ำในปีก่อน และจะโตขึ้นต่อเนื่องได้ราว 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 23,000 ล้านบาท มีปัจจัยหลักจาก

- คาดการณ์ยอดขายในประเทศปี 2565 เติบโตเล็กน้อยที่ 5,900 ล้านบาท หรือ +3% จากปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจเติบโตช้า และมีกำลังซื้อต้ำในช่วงครึ่งแรกของปี 65 แต่คาดว่ายอดขายจะกลับม่ฟื้นตัวดีในปี 2566 อยู่ที่ 6,700 ล้านบาท หรือ เติบโต +14% จากปีก่อนหน้า ตามภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีในช่วงที่เหลือของปี 65

- คาดการณ์ยอดขายต่างประเทศในปี2565 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นที่ 7,900 ล้านบาท หรือ +13% จากปีก่อนหน้า แม้จะประสบปัญหาในตลาดพม่า แต่เชื่อว่ายอดขายต่างประเทศโดยรวมเติบโตได้ดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดกัมพูชา รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงจากปีก่อน ส่วนในปี 2566 คาดการณ์ยอดขายต่างประเทศจะเติบโตอยู่ที่ 8,900 ล้านบาท หรือ +13% จากปีก่อนหน้า คาดว่าได้ปัจจัยหนุนจากทั้งตลาดกัมพูชา เวียดนาม และจีน

 

TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ