ผู้ลงทุน SSF-RMF ต้องรู้ "แจ้งใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่านบลจ."ทางเดียว


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผู้ลงทุนต้องรู้ในปีนี้ หากต้องการยื่นขอลดหย่อนภาษี สำหรับการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF เพราะต้องแจ้งบลจ.เท่านั้น ไม่สามารถยื่นเป็นเอกสารด้วยตัวเองได้

การยื่นขอลดหย่อนภาษีในปีนี้ สำหรับผู้บลงทุนซื้อ กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว(SSF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) มีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และเงื่อนไข "สำคัญ" ที่ผู้ลงทุนต้องรู้

เพราะตั้งแต่ปีนี้ (2565) กรมสรรพากรจะรับข้อมูลการลงทุนโดยตรงจากทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.) เพียงช่องทางเดียว โดยจะไม่รับหลักฐานในรูปแบบ "กระดาษ" หรือ "ไฟล์ PDF" หรือ เอกสารอื่นใดที่มาจากผู้มีเงินได้

ปลายปีทั้งที่ มองหา กองทุน SSF หรือ RMF เลือกอะไรดี?

ได้เวลาทองเล็งหา "กองทุน" SSF & RMF ตัวช่วยประหยัดภาษี

 

 

ทั้งนี้ เป็นไปตามประกาศของกรมสรรพากร ที่ประกาศตั้งแต่ต้นปี ซึ่งหลายคนอาจจะลืม ๆ ว่าต้องทำอย่างไร โดยประกาศดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป กำหนดให้ทางบลจ. ผู้ออกหน่วยลงทุน เป็นผู้มีหน้าที่ต้องยื่น "ข้อมูลการลงทุน" ให้กับกรมสรรพากรเท่านั้น

หากใครคิดว่าจะยื่นภาษีเอง หรือ รอบลจ.ส่งมาเหมือนทุกปีนั้น อาจจะต้องผิดหวัง เพราะว่าในปีนี้ทางบลจ. ไม่ว่าจะเป็นบลจ.ไหน จะไม่มีการจัดส่งเอกสารการลงทุนให้กับผู้ลงทุน หรือแม้แต่จัดส่งให้ ท่านก็ไม่สามารถยื่นเอกสารต่อสรรพากรได้ เพราะกรมสรรพากรไม่รับเอกสารทุกชนิด

เท่ากับว่า บลจ.ที่ผู้ซื้อหน่วยลงทุน เป็นผู้ส่งข้อมูลเพียงผู้เดียวเท่านั้น

เพราะถึงตรงนี้ ผู้ซื้อหน่วยลงทุน SSF และ RMF จะทำอย่างไร?

ตามประกาศกรมสรรพากร ที่ได้ออกประกาศเกี่ยวกับหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการลงทุนในกองทุน SSFและ RMF โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ต้องแจ้งความประสงค์ที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ต่อบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ที่ตนได้ซื้อหน่วยลงทุนไว้ จากนั้น บลจ. จะเป็นผู้นำส่งข้อมูลการลงทุนของผู้มีเงินได้ต่อกรมสรรพากร

ข้อมูลที่ บลจ. นำส่งจะถูกบันทึกไว้ในฐานข้อมูลของกรมสรรพากร โดยผู้มีเงินได้ไม่ต้องนำส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมอีกเมื่อมีการยื่นเสียภาษีเงินได้ประจำปี ซึ่งการดำเนินการข้างต้น จะคล้ายกับการนำส่งข้อมูลเบี้ยประกัน การบริจาคออนไลน์ ที่กรมสรรพากรได้มีการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา 

แต่ก็ใช่ว่าบลจ.จะทำส่งได้ทันที เพราะผู้ลงทุนจะต้องแจ้งความประสงค์ว่าให้บลจ.ส่งข้อมูลให้กับกรมสรรพากร ซึ่งจะทำให้บลตจ.สามารถนำส่งข้อมูลได้ แต่หากไม่แจ้งความประสงค์ให้บลจ.นำส่งข้อมูล ทางบลจ.ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ และจะทำให้ผู้ซื้อหน่วยลงทุน ไม่สามารถใช้สิทธิได้ เพราะตามประกาศสรรพากรก้บอกไปแล้วว่า ไม่รับข้อมูลจากช่องทางอื่น

ที่สำคัญอีกอย่าง ที่ผู้ลงทุนต้องตระหนักไว้มาก ๆ ก็คือ สรรพากรจะเริ่มนับปีที่แจ้งความประสงค์เท่านั้น ไม่มีผลย้อนหลัง และต้องแจ้งความประสงค์ก่อนสิ้นปี นั่นคือ ภายในวันที่ 31 ธันวาคมของปีที่ยื่นขอลดหย่อนภาษีเท่านั้น 

อย่างเช่น  หากต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อกองทุน SSF / RMF ปี 2565 ก็ต้องแจ้งความประสงค์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2565

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ยุ่งยากมากกับผู้ลงทุน การแจ้งความประสงค์ไม่จำเป็นต้องดำเนินการแจ้งบลจ.ทุกปี แต่แจ้งเพียงครั้งเดียวและมีผลไปในอนาคตตลอดจนกว่าจะมีการแจ้งยกเลิกความประสงค์

ทั้งนี้ การแจ้งความประสงค์กับบลจ. จะมีผลในอนาคตเท่านั้น หากผู้ลงทุนไม่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ในปีที่ผ่านมา และต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากเงินลงทุนในปีดังกล่าว ก็สามารถติดต่อ บลจ. เพื่อขอให้นำส่งข้อมูลการลงทุนย้อนหลังให้กับกรมสรรพากรได้เช่นกัน

ดังนั้น ในปีนี้ จะเป็นปีแรกที่เริ่มใช้ประกาศ อาจใมีหลายคนไม่รู้หรือลืม ดังนั้น ให้รีบดำเนินการตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากในช่วงเวลาที่ต้องยื่นภาษีประจำปี

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP หุ้น-การลงทุน

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ