ค่าเงินบาทแกว่งตัวในช่วงแคบ ๆ รอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) วันที่ 1-2 พ.ย.นี้ ว่าเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย 75% สู่ระดับ 4.00% ตามที่ตลาดได้คาดการณ์หรือไม่ เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งตลาดแรงงานสหรัฐฯโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยของเฟดจากถ้อยแถลงของประธานเฟดในช่วงการแถลงข่าว
ตลาดอาจเผชิญกับความผันผวน หากประธานเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเฟดอาจพิจารณาปรับลดอัตราการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนธ.ค.
เปิด 3 เหตุผล เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อ หนุนเงินทุนไหลเข้า สวนยุโรปถดถอย
เปิด 5 เหตุผล ทำไม? ลงทุนทองคำน่าสนใจ
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ความคาดหวังของนักลงทุนในตลาดที่มองว่าเฟดอาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยยังคงหนุนให้ตลาดอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On)
ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ไฮไลท์สำคัญที่ต้องจับตาและระมัดระวังความผันผวนในตลาด คือ การประชุม FOMC ขณะเดียวกัน รายงานผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียน ก็ยังคงมีผลต่อบรรยากาศในตลาดการเงิน
สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราประเมินว่า เงินบาทยังคงมีแนวโน้ม Sideways และอาจอ่อนค่าลงทะลุระดับ 38.00 บาทต่อดอลลาร์ได้ ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ (Correlation กับค่าเงินบาทเกือบ 80%) รวมถึงฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ และทิศทางของเงินหยวนจีนที่จะส่งผลต่อความผันผวนของค่าเงินบาทได้ในสัปดาห์นี้
ในส่วนเงินดอลลาร์ มองว่า เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดอาจชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยได้ในช่วงปลายปี หรือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงานไม่ได้แย่ลงมาก
อนึ่ง หากรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ไม่ได้แย่กว่าคาด ก็อาจพอช่วยพยุงบรรยากาศในตลาดการเงิน ซึ่งอาจชะลอการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ได้บ้าง