บทสรุป FTX ยักษ์กระดานเทรดล้ม วิกฤตใหญ่โลกคริปโทฯ อาจซ้ำรอย LUNA
ตลาดคริปโทแดงเถือก เซ่นวิกฤต FTX กระดานเทรดยักษ์ใหญ่ เสี่ยงล้มละลาย
แซม แบงก์แมน ฟรายด์ (Sam Bankman-Fried) หนุ่มวัย 30 ปี ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ FTX แพลตฟอร์มคริปโทเคอร์เรนซี่ชื่อดังของโลก ถูกจับกุมโดยตำรวจของบาฮามาสเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (12 ธ.ค.65) ย่านรีสอร์ตสุดหรู ในแนสซอ เมืองหลวงของบาฮามาสเมื่อ ตามคำสั่งศาลของสหรัฐอเมริกา โดยจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อไปพิจารณาคดี
ทั้งนี้ เดเมียน วิลเลียมส์ อัยการสหรัฐฯ ประจำเขตทางตอนใต้ของนิวยอร์ก โพสต์ทวิตเตอร์ ระบุว่า รัฐบาลกลางคาดว่าจะเปิดผนึกคำฟ้องในช่วงเช้าของวันนี้ (13 ธ.ค.65) ตามเวลาท้องถิ่น
โดยคำฟ้องดังกล่าวสื่อคาดว่า จะมีทั้งข้อหา การฉ้อโกงทางโทรศัพท์ การสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกง การฉ้อโกงหลักทรัพย์ สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงหลักทรัพย์ และการฟอกเงิน
ขณะเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เตรียมตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์เช่นกัน
ฟิลิป เดวิส นายกรัฐมนตรี ของบาฮามาส กล่าวว่า บาฮามาสและสหรัฐฯ มีส่วนในการรับผิดชอบต่อบุคคลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ FTX ซึ่งทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนและละเมิดกฎหมาย โดยทางบาฮามาสจะร่วมมือกับสหรัฐฯ ดำเนินการสืบสวนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ FTX
สำหรับ FTX เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี่ชื่อดัง ได้ยื่นฟ้องล้มละลายเมื่อ พ.ย. 65 ที่ผ่าน และแซม แบงก์แมน ฟรายด์ ได้การลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ เนื่องจากบริษัทประสบภาวะขาดสภาพคล่อง จากการที่ลูกค้าแห่ถอนเงินราว 6 พันล้านดอลลาร์ ออกจากแพลตฟอร์มภายในเวลา 72 ชั่วโมง
ซึ่งต้นตอปัญหาเกิดจากเว็บไซต์ CoinDesk ออกมาแฉงบการเงินของ บริษัทวิจัยด้านคริปโท Alameda Research ของ แซม แบงก์แมน ฟรายด์ กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง เพราะมีสินทรัพย์กว่า 80% เป็นเหรียญ FTT ที่ตนเองสร้างขึ้น แล้วนำเหรียญดังกล่าวไปค้ำประกันเงินกู้จาก FTX เพื่อนำเงินออกมาใช้หมุนเวียน
ท่ามกลางความปั่นป่วนใน FTX หลัง แซม แบงก์แมน ฟรายด์ ยื่นลาออกซีอีโอ ยังได้แอบโยกย้ายเงินลูกค้าราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ไปยัง Alameda Research ขณะเดียวกันเจ้าตัวได้ออกมายอมรับถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการวิกฤตดังกล่าว พร้อมทั้งปฏิเสธว่าไม่ได้แอบโยกย้ายเงินลูกค้า
ขณะที่เหล่านักลงทุนคริปโทฯ ในหสรัฐ ที่ได้รับความเสียหายจาก FTX ได้ยื่นฟ้อง แซม แบงก์แมน ฟรายด์ และเหล่าคนดังที่โฆษณาให้ FTX โดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการหลอกลวงนักลงทุนทำให้เกิดความเสียหายถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
