ค่าเงินบาทเช้านี้ เปิด "แข็งค่า" หลังค่าจ้างสหรัฐชะลอ ฉุดดอลลาร์ร่วง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ค่าเงินบาท เปิดตลาดเช้านี้แข็งค่าต่อเนื่องจากวันศุกร์ นักลงทุนคาดเฟดจะะลอขึ้นดอกเบี้ย หลังจากค่าจ้างงานสหรัฐชะลอตัว ชี้ให้เห็นว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะลดลง

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) รายงานว่าค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 33.70 แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 33.82 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้ เคลื่อนไหวช่วง 33.50 - 34.00 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก หลังจากการประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ออกมาสูงกว่าคาด

ราคาทองวันนี้ พุ่ง 100 บาท ตลาดมั่นไจเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

คาด กนง.ขึ้นดอกเบี้ยอีก หลังเงินเฟ้อไทยพุ่ง จำกัด Upside ตลาดหุ้นไทย

 

การเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในรอบ 1 เดือน "มีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง"

ขณะที่ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยออกมาต่ำกว่าประมาณการ ทำให้นักลงทุนคาดว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้เฟดชะลอความร้อนแรงของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น

คอนเทนต์แนะนำ
ธอส.ช่วยลูกหนี้ NPL นานสูงสุด 2 ปี เลือกผ่อนชำระเริ่มต้น 1,000 บาท
7 ข้อควรรู้ก่อนลงทุน "หุ้นกู้" เตรียมพร้อมก่อนตัดสินใจ

การเปิดประเทศของจีนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนค่าเงินบาทให้แข็งค่า จากความคาดหวังว่าภาคการท่องเที่ยวจะเป็นพระเอกของไทยถึงแม้ภาคการส่งออกอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจฝั่งอเมริกาและยุโรป

ในสัปดาห์นี้ตลาดคงให้ความสำคัญกับการประกาศตัวเลข Consumer price inflation ในวันพฤหัสนี้ และยังให้ควาทสนใจกับการประกาศผลประกอบการภาคเอกชนที่จะเริ่มทยอยประกาศออกมา 

แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยง และผู้ส่งออก ขายเงินตราต่างประเทศที่ระดับเหนือ 34.00 บาท/ดอลลาร์

 

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังการเติบโตของค่าจ้างในสหรัฐฯ ชะลอลงมากกว่าคาด ทำให้ตลาดมั่นใจแนวโน้มเงินเฟ้อชะลอตัวต่อเนื่อง หนุนโอกาสเฟดชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย

ในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ทิศทางนโยบายการเงินเฟด ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาด โดยต้องติดตาม รายงานเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะประธานเฟด นายเจอโรม พาวเวลล์ 

ทิศทางนโยบายการเงินเฟดยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาดการเงินสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนรอประเมินรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ โดยเฉพาะ รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนธันวาคม โดยตลาดประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป อาจชะลอลงสู่ระดับ 6.5% จากระดับ 7.1% ในเดือนก่อนหน้า ตามการปรับตัวลดลงของราคาพลังงาน, ปัญหา Supply Chain ที่คลี่คลายลง รวมถึงการปรับตัวลดลงต่อเนื่องของราคาสินค้าและบริการหลายรายการตามการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมผลของราคาอาหารและพลังงาน ก็จะชะลอลงสู่ระดับ 5.7% จากระดับ 6.0% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งภาพดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนสบายใจมากขึ้นว่า เงินเฟ้อสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง จนอาจทำให้เฟดพิจารณาชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต เหลือ +0.25% (ลดลงจาก +0.50% ในการประชุมเดือนธันวาคม)

แต่นักลงทุนรอประเมินแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินของเฟด ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ ประธานเฟด Jerome Powell ซึ่งเรามองว่า หากในช่วงนี้ ตลาดการเงินเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) จากความหวังว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดก็อาจพยายามปรับลดความคาดหวังดังกล่าวของนักลงทุน ด้วยการส่งสัญญาณย้ำจุดยืนว่า เฟดจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องและอาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงจนกว่าเฟดจะคุมปัญหาเงินเฟ้อได้สำเร็จ

คอนเทนต์แนะนำ
ยืนยัน ! 10 ม.ค. นี้ หน่วยงานรัฐรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกแห่ง
ดีอีเอส เปิด 10 อันดับข่าวปลอมประชาชนแห่เชื่อ ด้านนโยบายรัฐมาแรงสุด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP หุ้น-การลงทุน

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ