นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย คาดหนุนบาทแข็งต่อ ดูดเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้น
น้ำมันโลกพุ่งกว่า 1% ขานรับจีนเปิดประเทศ คาดเดินทางทะลุ 2 พันล้านคน
ตลาดหุ้นทั่วเอเชีย ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันจันทร์ (9 ม.ค. 2566) โดยได้ปัจจัยหนุนจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายน้อยลง รวมถึงจีนเริ่มเดินหน้าเปิดประเทศในรอบ 3 ปี ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางความกังวลภาวะถดถอย
โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย SET Index ปรับตัวขึ้น 13.76 จุด หรือ +0.82% ปิดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 1,687.62 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 44,251 ล้านบาท
ดัชนี Nikkei ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับขึ้น + 0.59% ที่ระดับ 25,973.85 จุด
ดัชนี CSI300 และ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีน ปรับขึ้น +0.81% และ +0.58% ตามลำดับ
ดัชนี Hang Seng ตลาดหุ้นฮ่องกง ปรับขึ้น +1.92% อยู่ที่ 21,381.98 จุด
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ปรับขึ้น +2.64% อยู่ที่ 14,752.21 จุด
ดัชนี KRX 100 ของเกาหลีใต้ ปรับขึ้น +2.65% อยู่ที่ 4,822.29 จุด
ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลีย ปรับขึ้น +0.59% หรือ 70.20 จุด อยู่ที่ 7,151.30จุด
โดยจีนเริ่มกลับมาเปิดประเทศเมื่อ 8 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากใช้มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดมาเป็นเวลานาน ซึ่งตลาดคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศมากยิ่งขึ้น
นักวิเคราะห์ Bank of America ประเมินว่า เศรษฐกิจจีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จะเริ่มได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวกิจกรรมภาคบริการ และคาดว่าตลาดหุ้นจะมี upside จากการขยายตัวหลายเท่า
ขณะที่ทางฝั่งสหรัฐฯ เริ่มมีความกังวลเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่ง ลดลงจาก 256,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย. แม้จะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว แต่ปัจจัยดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าอัตราการบริโภคของประชาชนลดลงตามไปด้วย ซึ่งจะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดภาวะถดถอย และอาจกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จำเป็นชะลอขึ้นดอกเบี้ย ส่งให้ล่าสุดเงินดอลล่าร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง
ด้านผลการสำรวจของ Fed Watch Tool เครื่องมือคาดการณ์ปรับขึ้นดอกเบี้ยของ เฟด ตลาดมองว่ามีโอกาสสูงถึง 75.2% จะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในเดือน ก.พ. 66 ซึ่งลดลงจากคาดการณ์เมื่อเดือนก่อนว่าจะปรับขึ้น 0.50%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกำลังเฝ้ารอคำกล่าวของนาย เจอโรม พาวเวล ในการประชุมธนาครกลางในกรุงสตอร์กโฮมในวันอังคารนี้ (10 ม.ค.66) รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่จะถูกเปิดเผยภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปของ เฟด