“ทิสโก้” คาดหุ้นไทยแตะ 1,720 จุด แนะ 9 หุ้นกำไร-ปันผลเด่น
AEONTS ไตรมาส 3 กำไรพุ่ง 35% แตะ 1,104 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตเพิ่ม
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รายงานผลดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 4 ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 1,804.39 ล้านบาท เติบโต +0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต +1.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ขณะที่รายได้รวม 4,879.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น +9% จากไตรมาสก่อนหน้า
เมื่อรวมทั้งปี 65 มีกำไรสุทธิ 7,221.74 ล้านบาท เติบโต +6.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 18,340.55 ล้านบาท ลดลง -2.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาธุรกิจธนาคารพาณิชย์ฟื้นตัว และการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง รวมถึงเงินให้สินเชื่อเติบโตเพิ่มมากขึ้น
โดยปี 2565 มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 12,733.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 273.80 ล้านบาท หรือ +2.2% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อ และผลตอบแทนอยู่ในระดับสูง
ส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เท่ากับ 5,606.93 ล้านบาท ลดลง 769.18 ล้านบาท หรือ -12.1% จากปีก่อนหน้า สาเหตุมาจากการชะลอตัวของธุรกิจตลาดทุน และค่าธรรมเนียมลดลงตามผลประกอบการของธุรกิจจัดการกองทุน
รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลัก เท่ากับ 5,838.80 ล้านบาท ลดลง -1.1% จาก เนื่องจากค่านายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง ท่ามกลางความผันผวนของตลาดทุน
ด้านค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิจที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เท่ากับ 722.68 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 2,063.98 ล้านบาท และคิดเป็นอัตรา 0.3% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย โดยพิจารณาถึงการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ และคุณภาพสินทรัพย์ รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย แต่บริษัทยังคงเฝ้าระวังความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากเศรษฐกิจโลกถดถอย
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ในปี 2566 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยกลุ่มทิสโก้ประเมินว่าจะขยายตัวที่ระดับ 3-4% มีแรงขับเคลื่อนหลักจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และการบริโภคภาคเอกชนที่มีทิศทางขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการจ้างงานในภาคบริการ
อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศที่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งจะส่งผลต่อภาคการส่งออกที่อาจหดตัวลงตามการชะลอตัวของประเทศคู่ค้าหลักอย่างสหรัฐฯ และยุโรป ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่าจะทะยอยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ มาอยู่ที่ระดับ 2%
ล่าสุดราคาหุ้น TISCO ปิดตลาดวันนี้ (16 ม.ค.66) ปรับลดลง 1.50 บาท หรือ -1.45% ที่ 102 บาทต่อหุ้น ต่ำสุดในรอบ 2 วัน รวมมูลค่าซื้อขายวันนี้ 640 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดฉบับเต็ม : คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ TISCO ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2565
