ราคาทองปิดตลาดวันนี้ ขยับขึ้น 50 บาท จากค่าเงินบาทอ่อนทะลุ 33


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดขยับขึ้น 50 บาทจากวันก่อน โดยราคาต่างประเทศร่วง แต่เงินบาทอ่อนค่าทะลุ 33 ทำให้ราคาในประเทศแพงขึ้น

สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำในประเทศวันนี้ ( จันทร์ที่ 16 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อน โดยมีการประกาศราคา 4 ครั้ง แม้ว่าตลาดต่างประเทศปรับลง แต่บาทอ่อนทะลุ 33 หนุนราคาในประเทศขึ้น ระวังเทขายหลังตรุษจีน

  • ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 29,800.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 29,900.00 บาท/บาททองคำ
  • ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 29,258.80  บาท/บาททองคำ และขายออก 30,400.00 บาท/บาททองคำ

ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 1,914.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 33.01 บาท/ดอลลาร์

ราคาทองวันนี้ เปิดการซื้อขาย "ไม่เปลี่ยนแปลง" เงินบาทแข็ง

ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาด "แข็งค่า" คาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยฉุดดอลลาร์

 

 

ราคาทอง COMEX ในต่างประเทศย่อตัวช่วงท้ายตลาดเอเชีย

ฮั่งเซ่งเฮง ออกบทวิเคราะห์ โดยนมองราคาทองคำมีแนวโน้มภาพรวมราคาทองคำที่ผ่านมานับตั้งแต่ต้นปียังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 5.26% นับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งราคาทองคำปรับตัวขึ้นในระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนครึ่ง

ทั้งนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐได้มีการเปิดเผยดัชนี CPI ที่สะท้อนให้ถึงตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐได้ชะลอตัวลง ส่งผลให้คาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ยิ่งเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำเข้ามาให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม มีคำถามที่ว่า “ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อไปอีกหรือไม่” และ “ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไปที่เป้าหมายเท่าใด” ซึ่งเป็นคำถามที่นักลงทุนหลายคนอาจจะสงสัย ประเด็นนี้อยากให้ติดตามถึงปัจจัยในสัปดาห์นี้ที่อาจจะส่งผลต่อราคาทองคำ หรือปัจจัยหลังจากนี้ว่ามีอะไรบ้างที่นักลงทุนจำเป็นต้องติดตาม

ประเด็นแรก ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ประจำปี 2566 ในวันที่ 16-20 ม.ค. ในหัวข้อ  “Cooperation in a Fragmented World” การประชุมในปีนี้จึงนับว่าเป็นสิ่งที่ต้องจับตาอย่างยิ่ง เนื่องจากปีนี้นับว่าเป็นการประชุมแบบพบหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี และยังถือว่ามีผู้นำทางการเมือง และผู้นำทางธุรกิจทั่วโลกที่มากสุดเป็นประวัติการณ์ โดยจะมีประมุขของรัฐและผู้นำรัฐบาลเข้าร่วมการประชุมจำนวน 52 คน รัฐมนตรีคลัง 56 คน รัฐมนตรีการค้า 30 คน รัฐมนตรีต่างประเทศ 35 คน และผู้ว่าการธนาคารกลาง 19 คน รวมถึงผู้นำจากองค์กรระหว่างประเทศ 39 คนได้แก่ ผู้นำขององค์การสหประชาชาติ (UN), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และองค์การการค้าโลก (WTO)

นอกจากนี้ยังมีผู้นำภาคธุรกิจจำนวน 1,500 คน โดยเป็นระดับซีอีโอมากกว่า 600 คน โดยประเด็นหลักที่ผู้นำทั่วโลกคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการหารือแนวทางหลีกเลี่ยงของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย นับว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างมีความกังวลเป็นอย่างมาก ว่าวิกฤติในครั้งนี้จะเป็น Perfect Strom ที่สร้างความเสียหายร้ายแรง ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งสูง ปัญหาขาดแคลนพลังงานที่ส่งผลต่อราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น หลังจากเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน การแพร่ระบาดรโควิดรอบใหม่จากที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด

ขณะที่ธนาคารโลกเตือนเศรษฐกิจโลกจะถดถอยในปีนี้  โดยได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 1.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 30 ปี

ทั้งนี้การประชุมครั้งนี้จะทำให้เราเห็นมุมมองในด้านโอกาส หรือทางออกของปัญหา แนวทางหรือทิศทางที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก รวมถึงประเมินทิศทางตลาด ที่อาจส่งผลเป็นตัวช่วยอีกทางในการคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจโลกในการตัดสินใจลงทุนในตลาดการเงินหรือการลงทุน

ประเด็นต่อมา ยังคงเป็นเรื่องแรงซื้อทองคำของคนจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากทองคำมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมและธรรมเนียมประเพณีของคนจีน อีกทั้งจีนเป็นประเทศบริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ในสัปดาห์นี้จะเริ่มเข้าใกล้วันเทศกาลตรุษจีน โดยเทศกาลตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2566 โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนจะนำมาซึ่งแรงซื้อทองคำที่มากขึ้น

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจจีนจะเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่จีนเปิดประเทศยังคงใช้เวลาคาดว่าอีกประมาณ 3-4 เดือน

ทั้งนี้หากมองปัจจัยต่อไปอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการประชุมของเฟดซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของปีนี้ โดยภาพรวมของตลาดมีมุมมองของการคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยการคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมครั้งแรกของปี 2566

ปัจจัยทั้งหลายที่กล่าวมานั้น ทำให้ย้อนกลับที่คำถามตอนเริ่มต้นว่า “ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อไปอีกหรือไม่” และ “ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไปที่เป้าหมายเท่าใด”

ทางฮั่วเซ่งเฮงคาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยในช่วงแรกให้มองเป้าไปที่ระดับ 1,950-1,965 ดอลลาร์ก่อน แต่ภายหลังเทศกาลตรุษจีน ราคาทองคำอาจมีแรงเทขายออกมา และเริ่มมีการปรับฐานเกิดขึ้นระยะสั้น

หากการคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงการเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ ที่ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มมองสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ทำให้ทองคำเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่ยังคงน่าสนใจในการลงทุน จึงอาจเกิดแรงซื้อทองคำเข้ามาในภายหลัง

ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าหลังจากที่ราคาทองคำแตะระดับ 1,900 ดอลลาร์ ก็เกิดแรงเทขายออกมาสั้น ๆ แต่อย่างไรราคาก็สามารถทะลุผ่าน 1,900 ดอลลาร์ และยืนเหนือปิดระดับดังกล่าว ทำให้คาดว่าราคาทองคำยังคงสามารถปรับขึ้นได้ต่อในระยะสั้น แต่ให้ระวังการปรับฐานภายหลังเทศกาลตรุษจีน

TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ