RS เล็งมาร์เก็ตแคปแสนล้าน ลุย Spin-Off ดันบ.ลูกเข้าตลาดฯ พร้อมฟื้นธุรกิจเพลง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“อาร์เอส กรุ๊ป” (RS) ตั้งเป้าดันมาร์เก็ตแคปทะลุ 1 แสนล้านบาท ภายใน 3 ปี เดินหน้าปั้น 6 กลุ่มธุรกิจ รวมถึงฟื้นธุรกิจเพลงกลับมาอีกครั้ง พร้อม Spin-Off ดันบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มจาก “เชฎฐ์ เอเชีย” (CHASE) ด้านโบรกฯประเมินกำไรโตต่อ เชื่อผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

TKC รุกเต็มสูบธุรกิจดิจิทัลโซลูชั่น กวาดลูกค้ารัฐ-เอกชน ตั้งเป้าปีนี้โต 15%

TISCO กำไรสุทธิปี 65 ที่ 7,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4%

ผ่านมาแล้ว 3 ปี ที่บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS ได้ปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจจากบริษัทมีเดีย มาสู่ธุรกิจธุรกิจสื่อและบันเทิง (Entertainmerce) ผนวกกับธุรกิจขายสินค้า (Commerce)

โดยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า ในปี 2566 ผู้บริหาร RS ตั้งเป้าดันมูลค่าตลาดของบริษัทฯ  (Market Cap.) ให้สูงถึง 100,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี และมีการจัดกลุ่มหน่วยธุรกิจใหม่ แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม

 

  1.  RS Multimedia - ให้บริการสถานีโทรทัศน์ช่อง 8, คลื่นวิทยุ COOL Fahrenheit โดยจะเพิ่มในส่วนของ On-Ground มากขึ้น
  2.  RS Music - เป็นปีแรกที่ RS จะกลับมาให้ความสำคัญ ลงทุนเชิงรุกในธุรกิจเพลงอีกครั้ง และเตรียมกลับมาจัดคอนเสิร์ตที่จะมีศิลปินหน้าเก่ากลับมาแสดงภายใต้“RS Homecoming” และศิลปินหน้าใหม่ของสังกัดภายใต้ “RS Newcomers”
  3.  RS Live Mall - จัดจำหน่ายสินค้าแบ่งเป็น RSMall, Well U, Vitanature+, CAMU-C และ Lifemate
  4.  RS Connect - Ulife ถือเป็นธุรกิจหลักภายใต้ RS Connect ที่จะเชื่อมต่อคนเข้ากับคน โดยสินค้าจาก ULife ถือเป็นสินค้าประเภท High Margin ดันทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นของ RS เติบโตต่อเนื่อง
  5.  RS Pet All - จำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ - ปลายน้ำ พร้อมขยายสาขา 17 สาขา ไปทั่วประเทศไทย เน้นผ่านช่องทางการขายTraditional Trade มากขึ้น
  6. RAlliance - คือธุรกิจ Investment Arm ของ RS ที่พร้อม Spin-Off บริษัทลูกเข้าตลาด หรือ “Chase” ภายในไตรมาส 1 ปี 66

ปัจจุบัน RS มี Market Cap. อยู่ที่ราว 16,000 ล้านบาท แผนการคือการแยกธุรกิจบริษัทลูก (Spin-off) เข้าตลาดฯ เพื่อผลักดัน Market Cap. ให้ถึงตามเป้า 100,000 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะ Spin-Off หน่วยธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งธุรกิจที่มีความชัดเจนแล้วคือ RS Connect โดยมีการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเตรียมนำ ULife เข้าจดทะเบียนภายในปี 2568 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

 

ขณะที่รายได้ในปี 2566 RS ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 5,500 ล้านบาท แบ่งเป็น จากธุรกิจ Commerce ราว 3,100 ล้านบาท และ ธุรกิจ Media & Entertainment ราว 2,400 ล้านบาท บนอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Margin) ที่ 48-50% และอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ที่ 11-13% เป้าหมายรายได้ปี 2566 เติบโตกว่า 33% จากปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตามเป้าหมายรายได้ของ RS ที่ 5,500 พันล้านบาท สูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินไว้ที่ 4,800 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นที่ประเมินอยู่ที่ 52.1% สูงกว่ากับเป้าของ RS ที่ 48-50% เนื่องจากฝ่ายวิจัยฯให้น้ำหนักกับรายได้จาก ULife ที่มีต้นทุนต่ำ และมีสินค้าประเภท High Margin สูง เข้ามาเสริมการเติบโตให้กับโมเดล Entertainmerce และในส่วนของ อัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ 9.3% เทียบกับเป้าอัตรากำไรสุทธิของ RS ที่ 11-13% โดยฝ่ายวิจัยยังคงประเมินอย่างอนุรักษ์นิยม (Conservative)

 

ทั้งนี้กำไรสุทธิ RS ในปี 2566 ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินอยู่ที่ที่ 456 ล้านบาท น้อยกว่ากำไรสุทธิที่ RS ที่ประเมินไว้อยู่ในช่วง 605-715 ล้านบาท โดยฝ่ายวิจัยประเมินอย่างอนุรักษ์นิยม แต่ยังเชื่อว่ากำไรสุทธิได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในงวดไตรมาส 2 ปี 65  

ขณะที่ทิศทางกำไรปี 2566 จะกลับมาเติบโต 82% จากปีก่อนหน้า หนุนหลักจากทุกหน่วยธุรกิจที่ฟื้นตัว, การ Spin-off บริษัท Chase ทำ ให้RS รับรู้กำไรพิเศษทันทีในไตรมาส 1 ปี 66 โดยกำหนดมูลค่าเหมาะสมปี 2566 อยู่ที่ 19.70 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันมีUpside 16.57%

TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ