สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำในประเทศ (23 ม.ค. 66) มีการปรับราคา 5 ครั้ง ปิดตลาดบวก 50 บาท เท่ากับเปิดตลาดช่วงเช้า แม้ราคาต่างประเทศปรับลง แต่ค่าเงินบาทอ่อน
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 29,800.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 29,900.00 บาท/บาททองคำ
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 29,258.80 บาท/บาททองคำ และขายออก 30,400.00 บาท/บาททองคำ
ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 1,926.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 32.79 บาท/ดอลลาร์
ทองวันนี้ขึ้นเล็กน้อย 50 บาท แนวโน้มตลาดทองคำแกว่งจำกัด
สัญญาณเงินไหลออก ทำให้เงินบาทแข็งค่า "จำกัด" จากกนง.ขึ้นดอกเบี้ย
การเคลื่อนไหวราคาทองคำในรอบ 5 วัน
ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง มองว่าทองคำยังน่าสนใจในระยะยาวจากการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกังวลหนี้สหรัฐฯชนเพดานที่ระดับ 31.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยยังได้แรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้แก่ รัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ สหรัฐฯและจีน, จีนและไต้หวัน และ เกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังเผชิญกับแรงกดดันจากการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น และขาดแรงซื้อทองคำจากจีน เนื่องจากตลาดการเงินจีนปิดทำการในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ทั้งนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 จากการคาดว่าเฟดจะชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และแรงซื้อทองคำของคนจีนก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า แม้ว่าราคาทองคำจะพยายามดีดตัวสูงขึ้นในระดับสูงสุดกว่าวันก่อนหน้า แต่แรงซื้อทองคำก็เริ่มลดลงทำให้เริ่มเกิดสัญญาณ bearish divergence
ในช่วงสัปดาห์นี้ตลาดการเงินจีนปิดทำการ เนื่องด้วยวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน จีนซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก จึงอาจขาดแรงซื้อจากจีน ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวไปไม่ไกลนัก และอาจเริ่มมีการปรับฐาน โดยสถิติราคาทองคำภายหลังเทศกาลตรุษจีน 1 สัปดาห์ในช่วง 5 ปีย้อนหลังที่ผ่านมาพบว่า ราคาทองคำมักปรับตัวลง โดยราคาทองคำปรับตัวลง 4 ครั้งในปี 2561-2564 และราคาทองคำปรับตัวขึ้นเพียง 1 ครั้งในปี 2565
การประชุมของเฟดครั้งแรกในปีนี้ในวันที่ 31 ม.ค.- 1 ก.พ. ซึ่งนักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ทั้งนี้ข้อมูล CME GROUP พบว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากขึ้นกว่าเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% มาสู่ระดับ 4.50%-4.75% เป็นสัญญาณชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อนแรงในปีที่แล้ว จากข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยจากกราฟข้างล่างจะเห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลงนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2565 และเงินเฟ้อยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินเฟ้อในยูโรโซนเริ่มปรับตัวลดลงในเดือน พ.ย. 2565
ทั้งนี้ การชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะส่งผลให้ราคาทองคำยังคงน่าสนใจ ซึ่งหากภายหลังเกิดการปรับฐานของราคาทองคำ ยังคงน่าเข้าซื้อทองคำสะสมไว้
นอกจากนี้ ราคาทองยังคงน่าสนใจในระยะยาวจากแรงหนุนความกังวลที่หนี้สหรัฐฯ ได้ชนเพดานที่ระดับ 31.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ จำเป็นต้องเร่งขยายเพดานหนี้อีกครั้ง ก่อนที่เม็ดเงินในมาตรการพิเศษของกระทรวงการคลังจะหมดลงก่อนต้นเดือน มิ.ย. เพื่อหลีกเลี้ยงการผิดชำระหนี้ หรือปิดหน่วยงานสหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการที่จะผ่านมติในครั้งนี้อาจจะไม่ง่ายเลย เนื่องจากตัวแทนจากรีพับลิกันยินดีเห็นการปิดหน่วยงานภาครัฐ มากกว่าจะเป็นการเสียวินัยทางการคลัง ซึ่งนับว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ยังคงต้องติดตามต่อไป
ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง สวนทางกับแรงซื้อที่ลดลง จึงคาดว่าระยะสั้นราคาทองคำเริ่มปรับฐาน จึงแนะนำให้เริ่มทยอยขายทำกำไร อย่างไรก็ตามในระยะยาวราคาทองคำยังคงน่าสนใจ แนะนำให้เข้าซื้อราคาทองคำ เมื่อราคาทองคำ spot ปรับลงมาบริเวณ 1,870-1,880 ดอลลาร์