KTB โชว์กำไรปี 65 พุ่ง 56.1% ที่ 33,698 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยโต-สำรองลด
TISCO กำไรสุทธิปี 65 ที่ 7,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4%
เช้าวันนี้ 24 ม.ค. 65 หุ้น KTB หรือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดตลาดราคาอยุ่ที่ 17.90 บาทต่อหุ้น สูงสุดในรอบ 5 วันที่ผ่านมา ภายหลังประกาศงบกำไรปี 65 เติบโตถึง +56.1% จากปีก่อน
โดยก่อนหน้านี้ KTB เปิดเผย ผลดำเนินงานปี 65 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 33,698 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +56.1% จากปีก่อน และมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 125,391 ล้านบาท เติบโต 8.3% จากปีก่อน โดยเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยเติบโต ตามการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มมากขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น
ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอยู่ที่ 54,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% แต่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวมปรับลดลงจาก 45.54% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 43.68% ในปี 65
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASPS) ประเมินว่า ทิศทางกำไรในไตรมาส 1 ปี 2566 ของ KTB จะเติบโตทั้งรายเดือน และรายปี ได้ปัจจัยหนุนจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเต็มไตรมาส โดยเฉพาะพอร์ตสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นทั้ง MRR, MLR, MOR รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) มีแนวโน้มปรับตัวลงตามฤดูกาล ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในเกณฑ์ดีเมื่อเทียบกับ ธ.พ. ใหญ่อื่น อิง GGM ให้ PBV 0.72 เท่า ได้ FV ปี 2566 ที่ 20.30 บาท
โดยในระยะถัดไปคาดจะเห็นพัฒนาการต่อยอดจากฐานข้อมูลผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ราว 40 ล้านคน ทั้งรายได้ดอกเบี้ย (NII) ผ่านการปล่อยสินเชื่อดิจิทัล ผ่าน KTB และ Virtual Bank หากได้รับใบอนุญาต รวมถึงรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) จากการขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อาทิ การจำหน่ายหุ้นกู้ หรือทองคำ ในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้งในเชิง Valuation มี PBV ซื้อขาย 0.6 เท่ายัง Laggard
ด้านบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี มองว่า คาดการณ์กำไรปี 66 ของ KTB จะเพิ่มขึ้นราว +24% ในปี 2566 จะเติบโตของสินเชื่อ และส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก ทั้งนี้หากมุ่งเน้นขยายสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยลอยตัวให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อยประเภทที่ความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะกลุ่มที่โยงกับการจ่ายเงินเดือน ในขณะเดียวกัน KTB มีสัดส่วน CASA (เงินรับฝากออมทรัพย์และกระแสรายวันต่อจำนวนเงินรับฝากรวม) สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่กว่า 80% ของโครงสร้างเงินฝาก
โดยเชื่อว่า KTB จะเป็นหนึ่งในธนาคารที่ได้อานิสงส์เต็ม ๆ จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น และคาดว่าโมเมนตัมกำไรของ KTB จะเร่งตัวขึ้นทั้งรายเดือนและรายปีในไตรมาส 1 ปี 66 จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงตามฤดูกาล และ NIM เพิ่มขึ้นหลังมีการขึ้นดอกเบี้ยหลายรอบในช่วงที่ผ่านมา พร้อมประเมินราคา KTB เป้าหมายใหม่ที่ 24 บาท อิงจาก PBV ที่ 0.8x (จากเดิมที่ 23 บาท)
