ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์ก หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ และการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันที่ 14 ก.พ.นี้
ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลง "ทองนอก-ค่าบาท" แกว่งแคบ ๆ
กนง.คาดมีความเสี่ยงเงินเฟ้อสูง "นานกว่าคาด" แต่จะทยอยขึ้นดอกเบี้ย
การเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในรอบ 5 วัน
แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศเพื่อป้องกันความเสี่ยง และผู้ส่งออกขายเงินตราต่างประเทศที่ระดับเหนือ 33.80 บาท/ดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าบรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง หลังบรรดาหุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่ปรับตัวลงแรง นำโดย Alphabet (Google) ที่ปรับตัวลง -7.7% หลังจากที่ “Bard” ซึ่งเป็น AI Chatbot ตัวล่าสุดของทางบริษัทได้ให้คำตอบที่ผิดพลาดในงานเปิดตัว
นอกจากนี้ บรรดาหุ้นเทคฯ ยังถูกกดดันจากถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดที่ต่างสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของเฟด พร้อมกับย้ำจุดยืนว่า เฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงได้นาน เพื่อให้มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวกลับสู่เป้าหมายได้สำเร็จ
ขณะเดียวกัน ความกังวลแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่อาจออกมาแย่กว่าคาด (ตลาดประเมินผลกำไรในไตรมาสที่ 4 ของบรรดาบริษัทบน S&P500 อาจลดลงไม่น้อยกว่า -3%y/y ) ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงนี้ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวลง -1.68% ส่วน ดัชนี S&P500 ปิดตลาด -1.11%
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท เรามองว่า การแข็งค่าของเงินดอลลาร์และการย่อตัวลงมีส่วนทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่จะเห็นได้ว่า การอ่อนค่าของเงินบาทเริ่มชะลอลง จากแรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะแรงขายบอนด์ก็เริ่มชะลอลง หลังจากที่ช่วงก่อนหน้า นักลงทุนต่างชาติได้ขายบอนด์ไทยสุทธิเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท ล่าสุดกลับมาเป็นฝั่งซื้อสุทธิราว 1.1 พันล้านบาท
หากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระทบตลาดการเงิน ค่าเงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหว sideways ในกรอบใหม่ โดยมีแนวต้านสำคัญในโซน 33.60-33.70 บาทต่อดอลลาร์ ในขณะที่ แนวรับสำคัญ จะอยู่ในช่วง 33.30 บาทต่อดอลลาร์