บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE รายงานผลดำเนินงานประจำปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้เท่ากับ มีผลขาดทุนสุทธิ 18,285.20 ล้านบาท เป็นขาดทุนเพิ่มขึ้น 16,857 ล้านบาท หรือ -1,380% จากปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 135,076 ล้านบาท ลดลง 8,579 ล้านบาท หรือ -6% จากปีก่อน โดยปัจจัยหลักมาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้ง ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และค่าใช้จ่ายพิเศษ
รายได้จากการให้บริการของ ทรูมูฟ เอช เท่ากับ 79,929 ล้านบาท ลดลง -6% จากปีก่อน เป็นผลจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด และการแข่งขันในตลาดกดดัน รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการ (ARPU) ปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการรวม 33.8 ล้านราย แบ่งเป็นระบบรายเดือน 11.7 ล้านราย และ ระบบเติมเงิน 22.1 ล้านราย
รายได้จากบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตของทรูออนไลน์ เท่ากับ 29,055 ล้านบาท ลดลง -1.5% จากปีก่อน ผลจาก ARPU ที่หดตัวลง แต่ฐานลูกค้ายังคงเติบโต ปัจจุบัน ผู้ใช้บริการ 4.97 ล้านราย เพิ่มขึ้น 3.34 แสนล้านราย
รายได้จากการให้บริการของทรูวิชั่นส์ เท่ากับ 9,280 ล้านบาท ลดลง -5.7% จากปีก่อน จากรายได้ค่าสมาชิกและค่าติดตั้งที่อ่อนตัวด้วยอัตราที่น้อยกว่าเดิม ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ 3.2 ล้านราย
รายได้จากการขาย เท่ากับ 21,123 ล้านบาท ลดลงจากฐานที่สูงในปลายปี 64 ซึ่งร้านค้ากลับมาเปิดอีกครั้ง และมีการยกเลิกมาตรการโควิ-19
ค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าจัดจำหน่าย เท่ากับ 82,272 ล้านบาท ลดลง -4.2% จากปีก่อน เนื่องจากมาตรการบริหารค่าใช้จ่ายและปรับปรุงโครงสร้างต้นทุน แต่ยังมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงข่ายและการปรับตัวเพิ่มขึ้นของค่าสาธารณูปโภค รวมถึงค่าใช้จ่ายพิเศษ เช่น ต้นทุนคอนเทนต์กีฬา และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายและการตลาด
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย เท่ากับ 50,587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +11.6% จากปีก่อน ผลจากการขยายโครงข่าย
ดอกเบี้ยจ่าย เท่ากับ 10,946 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +10.4% จากปีก่อน ผลจากการกู้ยืมเพิ่มขึ้น
บริษัทฯ ยังรับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 1,197 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 634% จากปีก่อน รวมถึงยังรับรู้ค่าใช้จ่ายพิเศษราว 8,500 ล้านบาท
นอกจากนี้กลุ่มทรูมีเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสดราว 27,011 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2565