MTC ปี 65 กำไร 5,093 ล้านบาท โต 3% แจกปันผล 0.95 บาท


โดย PPTV Online

เผยแพร่




บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) โชว์ปี 65 มีกำไรสุทธิ 5,093 ล้านบาท เติบโต +3% เหตุรายได้ดอกเบี้ยพุ่ง และยังตั้งสำรองเพิ่ม +225.27% บอร์ดมีมติปันผล 0.95 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 เม.ย. 2566 พร้อมตั้งเป้าปีนี้ 66 สินเชื่อเติบโต +20%

AEONTS ไตรมาส 3 กำไรพุ่ง 35% แตะ 1,104 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตเพิ่ม

HMPRO โชว์กำไร 6,217 ล้านบาท โต 14.27% ปันผล 0.21 บาท

BCP โชว์กำไร 12,575 ล้านบาท เติบโต 65% เหตุยอดขายน้ำมันพุ่ง ปันผล 1 บาท

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC รายงานผลดำเนินงานประจำปี 2565 มีกำไรสุทธิ 5,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 148 ล้านบาท หรือ +3% จากปีก่อน และ มีรายได้ 20,069 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,050 ล้านบาท หรือ + 25.28% จากปีก่อน

โดย MTC มีรายได้ดอกเบี้ยเท่ากับ 19,199 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,004 ล้านบาท หรือ +26.35% จากปีก่อน ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริการและบริหาร เท่ากับ 8,069 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +1,107 ล้านบาท หรือ +15.9% จากปีก่อน เนื่องจากค่าเสื่อมราคาจากสิทธิ์การใช้สินทรัพย์ และผลตอบแทนพนักงานจากการขยานสาขา

ขณะที่ต้นทุนทางการเงินเท่ากับ 2,812 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 686 ล้านบาท หรือ 32.25% จากปีก่อน ผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินกู้และดอกเบี้ย

ทั้งนี้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (กันเงินสำรอง) เท่ากับ 2,433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,685 ล้านบาท หรือ +225.27% จากปีก่อน

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสดจากงวดผลการดำเนินงานในปี 2565 ในอัตรา 0.95 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 เม.ย. 2566 และจ่ายปันผลวันที่ 17 พ.ค 2566

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2565 เริ่มฟื้นตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาคึกคัก

อย่างไรก็ตามการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อรายย่อยในตลาดยังคงมีความรุนแรงจากผู้เล่นใหม่ที่เข้ามาในตลาด รวมทั้งดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ส่งผลกระทบต่อความสามารถการทำกำไร โดยบริษัทฯได้ปรับกลยุทธ์และแผนธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทำให้ปี 2565 มีสินเชื่อคงค้าง 120,613 ล้านบาท เติบโต +31.37% เทียบกับปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันบริษัทฯยังคงรักษาสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับระบบ โดยปัจจุบัน NPL อยู่ที่ 2.91% และบริษัทฯวางเป้าหมายคุมสัดส่วนไม่เกิน 3.5% เทียบพอร์ตสินเชื่อรวม

สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อเติบโต +20% และมีแผนขยายสาขาเพิ่ม 600 แห่งในปี 2566 รวมเป็น 7,200 สาขาทั่วประเทศ รองรับความต้องการของลูกค้าในระดับฐานรากที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

 

เรื่องที่คุณอาจพลาด
วิดีโอยอดนิยม

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP หุ้น-การลงทุน

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ