ทำไม SVB ล้ม? ตลาดคาดเฟดจะชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ย 21-22 มี.ค.นี้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




วิกฤต SVB สร้างความวิตกต่อภาคการเงินที่อาจลุกลามเป็นวงกว้างและอาจส่งผลให้เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ด้านจีนเน้นการเติบโตเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ

วิกฤตธนาคาร Silicon Valley Bank (SVB) สร้างความวิตกต่อภาคการเงินและเพิ่มความเสี่ยงที่อาจเกิดเป็น Domino Effects โดยรัฐบาลสหรัฐสั่งปิด SVB หลังจากเกิดปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องอย่างหนัก ตามมาด้วยการปิดตัวลงของ Signature Bank ที่ได้รับผลกระทบจากการแห่ถอนเงินของผู้ฝากเป็นจำนวนมากท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น

ในส่วนของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับเพิ่มขึ้น 311,000 ตำแหน่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ สูงกว่าตลาดคาด แต่ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 504,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ 3.6% สูงกว่าตลาดคาดที่ 3.4%

คอนเทนต์แนะนำ
แนะ "ยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" ภายใน 1 พ.ค. 66
แนะ "ยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" ภายใน 1 พ.ค. 66
เปิดลงทะเบียนค่าไฟ  สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565
เปิดลงทะเบียนค่าไฟ สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565
ประกาศฉบับที่ 9 พายุฤดูร้อนลดลง แต่ยังมีฝนฟ้าคะนองเป็นบางพื้นที่
ประกาศฉบับที่ 9 พายุฤดูร้อนลดลง แต่ยังมีฝนฟ้าคะนองเป็นบางพื้นที่


 

 

ล่าสุด ทางรัฐบาลสหรัฐได้ออกมาตรการเรียกความเชื่อมั่นและคุ้มครองเงินฝากให้กับกลุ่มผู้ฝากเงินของ SVB เต็มจำนวน รวมถึงการที่เฟดประกาศจัดตั้งโครงการ Bank Term Funding Program ขนาด 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารสามารถนำพันธบัตรรัฐบาลหรือตราสารหนี้มาใช้เป็นหลักทรัพย์ในการแลกเงินได้เต็มจำนวน (ไม่ถูกกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น) เพื่อปกป้องธนาคารต่างๆ ไม่ให้เผชิญความเสี่ยงเดียวกับ SVB และป้องกันผลกระทบที่จะนำไปสู่การเกิด Domino Effects ในวงกว้าง

วิจัยกรุงศรีประเมินว่าสถานการณ์ดังกล่าวยังต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดจากวิกฤตความเชื่อมั่นและความเสี่ยงที่อาจลุกลามไปสู่เศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งอาจส่งผลให้เฟดลดความแข็งกร้าวเรื่องทิศทางดอกเบี้ย โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bp (จากคาดการณ์เดิมของตลาดที่ 50bp) สู่กรอบ 4.75-5.00% ในการประชุมสัปดาห์หน้าวันที่ 21-22 มี.ค.นี้

เศรษฐกิจยูโรโซน มีแนวโน้มชะลอตัวจากแรงกดดันฝั่งเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง โดยในเดือนมกราคม ยอดค้าปลีกอยู่ที่ -2.3% YoY หดตัวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังคงอยู่ในทิศทางขาลง ด้านผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2565 ขยายตัว 1.8% YoY ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนที่ระดับ 1.9% สะท้อนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจยูโรโซนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง

การบริโภคภาคเอกชนส่งสัญญาณชะลอตัวลงต่อในเดือนกุมภาพันธ์จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังคงอ่อนแอ (-19 จุด ในเดือนกุมภาพันธ์) ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเร่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ 5.6% ปัญหาเงินเฟ้ออาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังมีความจำเป็นต้องเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินต่อซึ่งอาจส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุด (Terminal Rate) ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 4% ภายในช่วงครึ่งปีแรก ก่อนที่จะเริ่มลดขนาดงบดุล (Quantitative tightening) ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรีประเมินว่าภาพรวมเศรษฐกิจยูโรโซนจะยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัวตลอดทั้งปี 2566 จากแรงกดดันฝั่งต้นทุนทางการเงินและเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนให้มีแนวโน้มอ่อนแอลง

จีนเน้นเศรษฐกิจขยายตัวอย่างมีคุณภาพ

ด้านเศรษฐกิจจีน ผลการประชุมสมัชชาประชาชนจีน (NPC) ลดทอนความหวังที่เศรษฐกิจจีนจะเติบโตสูงในปีนี้ แต่ให้ความสำคัญกับคุณภาพการเติบโต ล่าสุด NPC ตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ GDP ปีนี้ที่ 5% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของปีก่อนที่ 5.5% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด ด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวแต่ยังไม่แข็งแกร่ง โดยยอดขายรถในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 13.5% สู่ระดับ 1.98 ล้านคัน

ยอดส่งออกจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ หดตัวที่ -6.8% YoY จาก -10.1% ในเดือนธันวาคม ส่วนการนำเข้าร่วงแรงเกินคาดที่ -10.2% เทียบกับ -7.5% สำหรับตัวเลขเงินเฟ้อสะท้อนความอ่อนแอของอุปสงค์ในประเทศและต้นทุนที่ลดลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีที่ 1.0%% YoY จาก 2.1% ในเดือนมกราคม และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเหลือเพียง 0.6% จาก 1.0%

ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดและผลการประชุม NPC สร้างความผิดหวังให้กับตลาด เนื่องจากสะท้อนว่าเศรษฐกิจจีนปีนี้อาจเติบโตไม่สูงเหมือนที่หลายฝ่ายคาด อย่างไรก็ตาม ทางการจีนมุ่งเป้าไปที่การเติบโตเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ อาทิ (i) การรักษาเสถียรภาพทางการคลัง โดยตั้งเป้าขาดดุลการคลังที่ 3.0% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 2.8% (ii) การรักษาเสถียรภาพด้านราคา โดยคงเป้าเงินเฟ้อเท่ากับปีก่อนที่ 3% และ (iii) การมุ่งปฏิรูปเชิงโครงสร้างและสร้างเข้มแข็งของพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เช่น การปฏิรูปองค์กรด้านกฎเกณฑ์ในภาคการเงิน รวมทั้งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งคาดว่าจะช่วยบรรเทาความเสี่ยงในประเทศ และลดผลกระทบจากการกีดกันด้านเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยรวมแล้วอาจมีส่วนช่วยหนุนเศรษฐกิจในระยะปานกลางและระยะยาว

แรงกดดันดอกเบี้ยขาขึ้นในประเทศลดลง

สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทย อัตราเงินเฟ้อชะลอลงเร็วกว่าคาด ช่วยลดแรงกดดันต่อทิศทางขาขึ้นของดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่การบริโภคมีสัญญาณเชิงบวกจากความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง 

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์ชะลอลงต่อเนื่องสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน คาดกนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ 1.75% ในการประชุมปลายเดือนมีนาคมนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 3.79% (ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์และวิจัยกรุงศรีคาดไว้ที่ 4.18% และ 4.16% ตามลำดับ) ชะลอลงจาก 5.02% ในเดือนมกราคม เนื่องจากการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงตามสถานการณ์ราคาในตลาดโลก ประกอบกับมีการปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลง 1 บาทต่อลิตรในเดือนกุมภาพันธ์

นอกจากนี้ สินค้ากลุ่มอาหารสดหลายชนิดราคามีการปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักราคาหมวดอาหารสดและพลังงาน) เดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 1.93% ชะลอลงแรงจาก 3.04% ในเดือนมกราคม สำหรับในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 4.40% และ 2.48% ตามลำดับ

วิจัยกรุงศรีประเมินว่าหลายปัจจัยในปัจจุบันช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในประเทศ อาทิ

  • แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออ่อนตัวลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มต่ำกว่า 2% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ สะท้อนแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่อาจต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาด
  • ตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 4/2565 ที่อ่อนแอเกินคาด กระทบต่อประมาณการเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า โดยสภาพัฒน์ฯ ลดคาดการณ์ GDP ปีนี้จากขยายตัว 3-4% เป็น 2.7-3.7% ด้านวิจัยกรุงศรีคาด GDP เติบโต 3.3% จากเดิมคาด 3.6%
  • การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัว ทั้งนี้ แม้ล่าสุดวิกฤตธนาคาร SVB ในสหรัฐอาจทำให้ตลาดเงิน-ตลาดทุนมีความผันผวน และสร้างความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจการเงินโลก แต่วิจัยกรุงศรียังคงคาดว่าการดำเนินนโยบายการเงินของไทยอาจเป็นการปรับเพื่อให้เสถียรภาพด้านราคาสมดุลกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยกนง. มีแนวโน้มปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติโดยอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมจาก 1.50% ในเดือนมกราคม 2566 เป็น 1.75% ในเดือนมีนาคม และอาจคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อรอดูพัฒนาการทางเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และความเสี่ยงต่างๆ ในระยะต่อไป

ผู้บริโภคค่าครองชีพสูง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี หนุนการบริโภคเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปีนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ที่ 52.6 จาก 51.7 ในเดือนก่อน ปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ (ช้อปดีมีคืน) ภาคท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจนจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ทยอยเพิ่มขึ้น รายได้เกษตรกรอยู่ในเกณฑ์ดีหนุนกำลังซื้อในต่างจังหวัด รวมถึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงขายปลีกในประเทศปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจไทยที่อาจฟื้นตัวช้าจากภาคส่งออกที่อ่อนแอ ค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้น และค่าเงินบาทที่ผันผวน

การบริโภคภาคเอกชนที่นับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ได้ปัจจัยหนุนจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับเพิ่มขึ้นและยังมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ในอีก 6 เดือนข้างหน้าปรับขึ้นสู่ระดับ 60.2 จาก 59.6 ในเดือนมกราคม กอปรกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ผ่านผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีจำนวนราว 14.6 ล้านคน และโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5  (วงเงินกว่า 2 พันล้านบาท มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม ถึง 30 เมษายน) รวมถึงกิจกรรมเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วประเทศล้วนเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้มีการใช้จ่ายและมีเม็ดเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น

อัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น และภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงอาจเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของการบริโภคโดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

คอนเทนต์แนะนำ
ราคาทองวันนี้ เปิดตลาดพุ่ง 300 บาท ทองสปอตวิ่งทะลุ 1,900 ดอลลาร์
ราคาทองวันนี้ เปิดตลาดพุ่ง 300 บาท ทองสปอตวิ่งทะลุ 1,900 ดอลลาร์
ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดยังแข็งค่า พิษปิดแบงก์สหรัฐฉุดดอลลาร์
ค่าเงินบาทวันนี้ เปิดตลาดยังแข็งค่า พิษปิดแบงก์สหรัฐฉุดดอลลาร์
เปิดสถิติหวย งวด 16 มี.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
เปิดสถิติหวย งวด 16 มี.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
7 เมนูจานโปรด “โซเดียมสูง” อร่อยปากลำบากไต กินบ่อยเสี่ยงไตเรื้อรัง
7 เมนูจานโปรด “โซเดียมสูง” อร่อยปากลำบากไต กินบ่อยเสี่ยงไตเรื้อรัง

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์


TOP หุ้น-การลงทุน

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ