รู้จัก เครดิต สวิส ธนาคารเก่าแก่เกือบ 200 ปี ที่กำลังเจอวิกฤต
UBS เข้าฮุบ “เครดิต สวิส” มูลค่า 1 แสนล้านบาท ป้องกันกระทบตลาดการเงิน
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (APSP) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ระบุว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีปัญหาธนาคารพาณิชย์ ล้มละลาย ได้กดดันให้กระแสเงินทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) ไหลออกจากตลาดหุ้นทุกภูมิภาค นำโดยต่างชาติขายหุ้นไต้หวัดสุทธิสูงสุด 929 ล้านดอลบาร์ ฟิลลิปปินส์ถูกขายสุทธิ 497 ล้านดอลลาร์ เกาหลีไต้ถูกขายสุทธิ 447 ล้านดอลลาร์ ไทยถูกขายสุทธิ 283 ล้านดอลลาร์ และดินโดนีเซีย ถูกขายสุทธิ 48 ล้านดอลลาร์
โดยสัปดาห์นี้ บล.เอเซียพลัส คาดว่ากระแสเงินทุนจากต่างชาติ อาจจะชะลอการไหลออกจากตลาดหุ้นไทยจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่
1. UBS เข้าซื้อกิจการเครดิต สวิส (Credit Suisse) ช่วยสร้าง Sentiment ที่ดีต่อตลาดหุ้นในช่วงสั้น แต่ยังต้องติดตามต่อว่าจะมีธนาคารพาณิชย์ อื่น ๆ ล้มตามอีกหรือไม่
2. นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟด (Fed) จะขึ้นดอกเบี้ยรอบ 22 มี.ค. 66 เพียง 0.25% เป็น 5% และอาจค่อย ๆ ลดระดับดอกเบี้บลงในช่วงกลางปีนี้ เดิมคาดเพดานดอกเบี้ยในปีนี้อยู่ที่ 5.75% ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยที่น้อยลง บวกกับอาจลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ตามกลไกจะช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นซื้อขายบน P/E ที่สูงขึ้นได้
3. ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ต่างชาติมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยล่าสุดอยู่ที่ 34.1 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นมากว่า 3.1% จากต้นเดือน ม.ค. สาเหตุหลักได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่า
4. การเลือกตั้งใกล้เข้ามา คาดจะเห็นนโยบายเด็ด ๆ ของแต่ละพรรคเพิ่มเติม ในช่วงโค้งแรกของการหาเสียงหลังยุบสภา ดีต่อกลุ่ม COMM, FIN, BANK, MEDIA,FOOD เป็นหลัก และบางพรรคเริ่มมีการเน้นเรื่อง รถ EV, Soft Power, การใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนในการบริหารทำธุรกิจกับประชาชนมากขึ้น สำหรับหุ้นเด่นการเมือง แนะนำ CRC, CPALL, BJC, MTC, SAWAD, THANI, KBANK, BBL, BEC, PLANB, CBG, SAPPE, OSP และ SNNP
นอกจากนี้พบหุ้นใน SET100 ที่วิ่งได้ดี (Outperform) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นหุ้นอิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก ( Domestic) สวนทางกับหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก (Global) ค่อนข้าง Underperform
สำหรับวันนี้คาดการณ์ตลาดหุ้นไทย น่าจะกลับมารีบาวน์ (Rebound) ในกรอบ 1,555 – 1,580
