สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำในประเทศวันนี้ (20 มี.ค.66) ในช่วงบ่าย เวลา 14.15 น. ปรับราคาครั้งที่ 10 ราคาขึ้น 400 บาทจากวันก่อน จากหลายปัจจัยหนุน ทั้งปัญหาสถาบันการเงินโลกและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 32,050.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 32,150.00 บาท/บาททองคำ
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 31,472.16 บาท/บาททองคำ และขายออก 32,650.00 บาท/บาททองคำ
ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 2,001.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 34.04 บาท/ดอลลาร์
ราคาทองฟิวเจอร์ในช่วงบ่ายตามเวลาในไทย วิ่งแรงทะลุ 2,000 ดอลลาร์
เทรดเดอร์กล่าวว่าราคาทองคำมีแนวโน้มขยับขึ้น หลังผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,975 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับปัจจัยหนุน ทั้งจากปัญหาการล้มของสถาบันการเงินในสหรัฐ ความขัดแย้งการเมืองโลกและแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 21-22 มี.ค.นี้
ราคาทองคำทะยานขึ้นจากเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา ที่ระดับ 1,615 ดอลลาร์/ออนซ์ จนถึงเดือนมี.ค. วิ่งขึ้นแตะ 1,960 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยทองคำเริ่มมีสัญญาณซื้อตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. โดยหลังจากราคาทองคำร่วงมายาวนาน 2 ปีจากระดับสูงสุด 2,075 ดอลลาร์/ออนซ์
แม้ว่าราคาทองจะวิ่งขึ้นแรง แต่มีแนวต้านสำคัญที่ 1,950 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญในรอบ 2 ปีครึ่ง และหากไม่ผ่านจุดนี้ ราคาทองอาจจะวกหลับเป็น "ขาลง" ซึ่งทำให้ราคาทองคำสร้างจุดวกกลับในต้นเดือนก.พ.
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำสร้างแนวรับที่ 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นจุดวกกลับมีแรงซื้อเข้ามาหนาแน่น โดยทองคำสามารถวิ่งขึ้นมาได้ 1,925 ดอลลาร์
เส้นกราฟราคาทองรายเดือนชี้ให้เห็นว่าการสร้างฐานในรอบ 11 ปีกำลังอยู่ในช่วงท้าย และเริ่มเกิดสัญญาณซื้อในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณหนุนราคาทองคำ หากราคาปิดรายเดือนเหนือ 1,975 ดอลลาร์/ออนซ์ จะช่วยย้ำทิศทางขาขึ้นที่ 2,250 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกน คากว่าในระยะยาว ราคาทองยังแข็งแกร่ง จากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจลดดอกเบี้ยและภาวะเศรษบกิจสหรัฐถดถอย ทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากขึ้น โดยคาดว่าราคาทองในปีนี้จะขึ้นไปที่ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์