คุณฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุว่า ธุรกิจโรงแรม ตั้งเป้ารายได้เติบโต +20% จากปีก่อน อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท คาดอัตราเข้าพักถึง +75% รายได้เฉลี่ยต่อห้องที่ +28% ปัจจัยหลักมาจาก โรงแรม 4 แห่งในไทยกว่า 800 ห้อง คาดรายได้เติบโต +60%
ส่วนมัลดีฟ คาดรายได้เติบโต +30% มอริเชียส คาดรายได้เติบโต +30% และอังกฤษคาดรายได้เติบโต +10% ในระยะ 2 ปีนี้ (2566-2568) ตั้งงบลงทุน 2,000 ล้านบาท ปรับปรุงโรงแรม และอีก 7,500 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวโรงแรมใหม่ในมัลดิฟ เป็นรีสอทร์ลักซ์ซัวรี่ กำลังจะเปิดโครงการ ราวเดือนพ.ย. 66 การก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 55% มีห้องพักทั้งหมด 80 ห้อง
รายได้หลักมาจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย คาดรายได้จะเติบโต +70% จากปีก่อน ที่ 4,000 กว่าล้านบาท จากตัวที่อยู่อาศัยแนวราบใหม่ 5 โครงการ ในทำเลใจกลางกรุงเทพมหานคร รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท
เจาะกลุ่มตลาดได้แก่ Luxury ราคาเริ่มต้น 15-30 ล้านบาท, Premium luxury ราคาเริ่มต้น 30-50 ล้านบาท, Super luxury ราคาเริ่มต้น 50-100 ล้านบาท และ Ultra luxury ราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาทขึ้น
ซึ่งในกลุ่ม Ultra luxury จะมีโครงการแฟลกชิปใหม่ เป็นที่อยู่อาศัย ราคา 550 ล้านบาท รวม 2 ยูนิต ยูนิตละไม่เกิน 10 ไร่ ทำเลสุขุมวิท เป็นโครงการแบบคลัสเตอร์โฮม คือ ขายที่ดินก่อน และรับสร้างบ้านให้ทีหลังตามความต้องการของลูกค้า เนื่องจากรับรู้ได้เร็ว คาดจะเปิดตัวโครงการในกลางปี 66
ขณะที่คอนโดมิเนียม บริษัทได้ขายไปหมดแล้ว และมีเพียงคอนโดฯที่กำลังสร้างอยู่ 1 แห่ง คือ The EXTRO พญาไท-รางน้ำ ดังนั้นบริษัทจึงตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นที่เหลือจากพันธมิตร ในคอนโดมิเนียม The ESSE Sukhumvit 36 (ดิ เอส สุขุมวิท 36) จากพันธมิตร ส่งผลให้บริษัทจะเข้าถือหุ้น 100% เนื่องจากมองว่าคอนโดฯนี้เป็นทำเลทองสำหรับชาวต่างชาติ คาดว่าจะรับรู้รายได้จากยอดโอนที่เหลืออีก 33% ในปีนี้
ด้านธุรกิจเช่าพื้นที่ คาดรายได้จะเติบโต +20% จากปีก่อน ตั้งเป้าอัตราการเช้าพื้นที่ (occupancy) 90% หลักๆมาจาก อาคารสำนักงานใหม่ S-OASIS ย่านห้าแยกลาดพร้าว มีพื้นที่รวม 53,500 ตารางเมตร ซึ่งได้ปล่อยเช่าพื้นที่แล้ว 13% ส่วนพื้นที่ร้านค้าเต็มหมดแล้ว 1,700 ตารางเมตร
แรงหนุนเปิดประเทศ SHR วางเป้าหมื่นล้าน หวังรัฐบาลใหม่ช่วยฟื้นท่องเที่ยวดึงต่างชาติ
ประกาศ ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 15% ของปีภาษี 2566
สำหรับนิคมอุตสาหกรรม ที่เอสอ่างทอง ตั้งเป้ารายได้เติบโต +200% จากปีก่อน คาดมียอดโอนปีนี้ไม่ต่ำกว่า 200 ไร่ เพิ่มเติมจาก 77 ไร่ในปีที่ผ่านมา
บริษัทตั้งเป้าให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากจังหวัดอ่างทองอยู่ในทำเลใจกลางวัตถุดิบ โดยเฉพาะแหล่งอาหาร และอยู่บนเส้นทางลำเลียงเกษตรกรจากภาคเหนือ ซึ่งจะเป็นแหล่งผลิตแปรรูปและส่งต่อออกไปได้ อีกทั้งต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยเตรียมเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนอีก 2 โรงงานในปีนี้ รวมกำลังผลิต 400 เมกกะวัต
อย่างไรก็ตาม งบลงทุนปีนี้ 2566 บริษัทวางไว้ราว 6,000-7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นที่อยู่อาศัย 4,000-5,000 ล้านบาท โรงแรมกว่า 1,000 ล้านบาท และนิคมอุตสาหกรรมราว 1,000 ล้านบาท
ไตรมาส 1/66 ปีนี้รายได้หลักๆมาจากธุรกิจโรงแรม หลังเปิดประเทศ โดยภูเก็ต และเกาะพีพี โรงแรมเข้าพักถึง 95% ส่วนเกาะสมุย 90% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งราคาที่พักพุ่ง 2-3 เท่า ส่วนที่พักอาศัยและนิคมฯ มีของเตรียมขายแล้ว แต่ต้องดูจังหวะเวลา คาดรายได้รวมไตรมาสนี้ จะใกล้เคียงกับไตรมาส 4/65 ที่ราว 4,000 ล้านบาท
ล่าสุด ณ วันที่ 20 มี.ค.66 หุ้น S ปิดตลาดอยู่ที่ราคา 1.74 บาทต่อหุ้น ปรับลดลงราว 12.5% จากเมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
