บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ มีกำไรสุทธิไตรมาสแรก 16,526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.86% จากกำไรสุทธิ 8,843.50 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว
แม้รายได้จากการขายลดลง 16% แต่กำไรส่วนใหญ่มาจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน SCG Logistics จากการรวมธุรกิจ SCGJWD Logistics ของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง หากไม่รวมรายการพิเศษ จะมีกำไร 4,516 ล้านบาท
“ปูนซีเมนต์ไทย” แจงเหตุผลขยายเวลา IPO ของ SCGC ถึง 4 ต.ค.66
เปิดกลยุทธ์ SCG Decor ปรับโครงสร้างใหญ่ ขยาย 2 ธุรกิจหลัก เจาะตลาดอาเซียน
ปรับโครงสร้างใหม่ "เอสซีจี" เพิกถอนหุ้น COTTO สปินออฟ SCG Decor ขาย IPO
แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เอสซีจีมีรายได้จากการขายลดลง 16% ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจเคมิคอลล์ EBITDA ลดลง 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในขณะที่กำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่กำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษ ลดลง 42% จากปีก่อน สาเหตุหลักจากปริมาณการขายและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ รวมทั้งต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ธุรกิจแพคเกจจิ้ง (SCGP) มีรายได้จากการขายในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เท่ากับ 33,729 ล้านบาท ลดลง 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน EBITDA เท่ากับ 4,474 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 1,220 ล้านบาท ลดลง 26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เอสซีจีมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม 2,665 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 794 ล้านบาท หรือ 42% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมในธุรกิจเคมิคอลส์คิดเป็น 36% ของทั้งหมด หรือ 955 ล้านบาท ลดลง 153 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมธุรกิจอื่นคิดเป็น 64% ของทั้งหมด หรือ 1,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 947 ล้านบาท จากไตรมาสก่อน
เอสซีจี มีเงินปันผลรับในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เท่ากับ 143 ล้านบาท ลดลง 1,153 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาจากเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม (เอสซีจีถือหุ้น 20-50%) เท่ากับ 112 ล้านบาท และจากบริษัทอื่น (เอสซีจี ถือหุ้นต่ำกว่า 20%) เท่ากับ 31 ล้านบาท
บล.หยวนต้า คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาสแรก จะทำได้ 3.6 พันล้านบาท ลดลง 59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงทั้ง 3 ธุรกิจจากปัญหาอุปทานปิโตรเคมี ต้นทุนเชื้อเพลิงแพง อุปสงค์จากจีนยังไม่ปกติ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา จะฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจวัสดุก่อสร้าง, โรงงานปิโตรเคมีกลับมาผลิต, อุปสงค์จีนเปิดประเทศ และต้นทุนเชื้อเพลิงเริ่มลดลง
SCC กำลังปรับโครงสร้างธุรกิจกระเบื้องและสุขภัณฑ์ ช่วยเร่งการเติบโตด้วยการขยายธุรกิจในอาเซียน, สินค้าใหม่ๆ รวมทั้ง Synergy การผลิต
ราคาหุ้น SCC ปิดตลาดวันนี้ (26 เม.ย.) ลดลง 2.00 บาท หรือ 0.66% ปิดที่ 301.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 377.18 ล้านบาท
