้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังมา จับตา Stagflation ตามมาติด ๆ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม และส่งสัญญาณสิ้นสุดดอกเบี้ยขาขึ้น ตลาดคาดว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยกำลังมา แต่จากเงินเฟ้อสูง โอกาสเกิด Stagflation มีมาก

ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 2-3 พ.ค. และท่าทีของเฟดที่แถลงภายหลังการประชุมชี้ให้เห็นว่าเฟดกำลังก้าวสู่เฟสใหม่ของการบริการจัดการภาวะวิกฤตจากการฟื้นตัวหลังโควิด-19 

หากเฟดยุติการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป ก็จะหมายถึงว่าเป็นการสิ้นสุดวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางภาคธนาคารเผชิญกับปัญหาสภาพคล่อง และความเสี่ยงเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย

“ดอกเบี้ยขาขึ้น” จุดชนวนวิกฤตแบงก์สหรัฐฯล้ม ประเมินเสี่ยงกระทบไทยแค่ไหน?

วิกฤติภาคธนาคารสหรัฐกดดันเฟด คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ครั้งสุดท้าย

ดอกเบี้ยเฟด “ขึ้นต่อ หรือพอแค่นี้?” จับตาครึ่งปีหลังภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

 

 

อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดก่อนวิกฤตการเงินครั้งหลังสุด หรือ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์เมื่อปี 2008

แม้ว่าเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 5.00%-5.25% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ แต่ถ้อยคำที่เฟดใช้เปลี่ยนไปจากเดิม โดยจเฟดจะพิจารณาว่าการขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไปยังมีความจำเป็นหรือไม่

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด บอกว่าสหรัฐยังเผชิญกับเงินเฟ้อสูง แต่ก็มีสัญญาณชะลอตัวและความเสี่ยงจากสภาพคล่องตึงตัวในภาคธนาคาร

นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 เฟดขึ้นดอกเบี้ย 5.00% รวมทั้งสิ้น 10 ครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์นโยบายการเงินสหรัฐ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่การเร่งขึ้นดอกเบี้ยกำลังส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารและภาคธุรกิจ

แม้นายพาวเวลล์ จะบอกเป็นนัยว่าดอกเบี้ยขาขึ้นได้จบแล้ว แต่จะลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดการเงินวิเคราะห์กันหรือไม่ อาจจะเร็วเกินไป ซึ่งหมายความว่าจากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงการประชุมครั้งนี้ คาดว่าในปีนี้ยังไม่เห็นการปรับลดดอกเบี้ย

นายพาวเวลล์ยังยืนยันว่านโยบายของเฟดที่ผ่านมานั้น "ถูกทาง" แม้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะกระทบภาคธนาคารมากกว่าที่คาดไว้ แต่ก็หวังว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้

แต่นโยบายดอกเบี้ยของเฟดจะซ้ำรอยอดีตหรือไม่ ในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 ในช่วงนั้นดอกเบี้ยได้ขึ้นมาในระดับปัจจุบัน ก่อนที่วิกฤตจะตามมา และเฟดต้องลดดอกเบี้ยลง 

ปัญหาใหญ่ของเฟด ทำอย่างไรเงินเฟ้อจะลดลงตามที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมี.ค. แต่ปรากฏว่าเงินเฟ้อขยับลงอย่างช้า ๆ และยังสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% กว่า 2 เท่า

ขณะนี้ ตลาดการเงินเริ่มมองไปไกลกว่า "ภาวถเศรษฐกิจถดถอย" เพราะประเมินว่าอย่างไรเสียคงหลีกเลี่ยงไม่พ้น แต่ที่กังวลมากกว่านั้นคือ Stagflation ที่จะตาม เมื่อเงินเฟ้อสูง แต่เศรษฐกิจชะลอ ทำให้ทุกอย่างชะงักงันตามมา

 

TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ