ปิดฉาก “ไทยสมายล์” จ่อควบรวม “การบินไทย” สิ้นปี 66 โอนย้ายพนักงาน 800 คน
“บินไทย” ปี 65 พลิกขาดทุน 272 ล้านบาท สวนทางรายได้พุ่ง เหตุค่าใช้จ่ายสูง
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2566 บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 12,514 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 485.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมทั้งหมด 41,507 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 271.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักจำนวนผู้โดยสารที่ปรับเพิ่มขึ้น 245.1% ที่ 3.52 ล้านคน
โดยรายได้จากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกิน เท่ากับ 34,978 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 681.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านปริมาณการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 469.2% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 83.5% สูงกว่าปีก่อนเฉลี่ยที่ 32.5%
ส่วนรายได้จากการขนส่งสินค้า ลดลง 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากรายได้จากพัสดุภัณฑ์เฉลี่ยต่อหน่วยลดลง รายได้กิจการอื่น เพิ่มขึ้น 46.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านค่าใช้จ่าย เท่ากับ 28,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน คิดเป็นสัดส่วน 57.6% ของค่าใช้จ่ายรวม และค่าน้ำมันเครื่องบิน คิดเป็นสัดส่วน 42.3% ของค่าใช้จ่ายรวม
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.การบินไทย (CEO) เปิดเผยว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 1 ปี 66 ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเส้นทางประเทศญี่ปุ่น และเกาหลี รวมถึงจีนที่มีการเปิดเที่ยวบินเพิ่มขึ้นในเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังมีจำนวนไม่มาก เนื่องจากไม่มีเครื่องบินใช้งานเพียงพอ
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา การบินไทย ได้รับมอบเครื่องบิน แอร์บัส A350 เข้าประจำฝูง 1 ลำ และลำที่สองจะรับมอบในเดือน มิ.ย.นี้ จากนั้นอีก 2 ลำ จะเข้ามาช่วงปลายไตรมาส 3 ซึ่งรวมปี้นี้จะมีเครื่องบินใหม่เพิ่ม 4 ลำ จากทั้งหมด 11 ลำ โดยเป็นเครื่องบินเช่าทั้งหมด ซึ่งเครื่องบินใหม่ดังกล่าวจะนำไปเพิ่มเที่ยวบินในประเทศจีน และญี่ปุ่น ที่มีตลาดการแข่งขันสูง
ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 2 จะเข้าสู่ช่วงโลว์ไฮซีซั่น คาดว่าอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร จะลดลงเฉลี่ยที่ 77% ส่วนรายได้คาดว่าจะลดลงจากไตรมาส 1 แต่ยังคงเติบโตเกิน 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากฐานที่ต่ำ
“จีนเรายังไมได้บินเต็มที่ และเครื่องบินเราก็ยังไม่มี เพราะฉะนั้นเครื่องบินใหม่จะเข้ามาช่วงไตรมาส 3 ดังนั้นไตรมาส 2 จำนวนเครื่องบินที่มีก็จะใกล้เคียงไตรมาส 1”
ทั้งนี้การควบรวมสายการบินไทยสมายล์ อยู่ระหว่างขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการเจ้าหนี้นำเครื่องบิน 20 ลำของไทยสมายล์กลับเข้ามาที่การบินไทย ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน พ.ค. หลังจากนั้นก็ต้องยื่นขออนุญาตจดทะเบียนเครื่องใหม่จากกระทรวงคมนาคม และทยอยนำเข้าฝูงการบินไทย เบื้องต้นปีนี้นำเข้ามาก่อน 4 ลำ
“ไตรมาส 3 ถ้าหากได้รับความเห็นชอบ เราก็จะค่อย ๆ นำเครื่องบินเข้ามา และทยอยรับรู้รายได้ในฝูงการบินไทย แต่ะจะมีระยะเวลาที่เครื่องบินจอดอยู่เฉย ๆ เพื่อดำเนินกระบวนการรอนำเข้าฝูง ซึ่งจะมีช่วงสูญญากาศสั้น ๆ”
CEO บมจ.การบินไทย กล่าวต่อว่า ส่วนการออกจากแผนฟื้นฟู ยังคงตามกำหนดเดิม คือ ไม่เกินปี 67 เนื่องจากต้องทำให้บริษัทแข็งแรงก่อน แม้ตอนนี้ผลดำเนินงานจะดีขึ้นแล้วก็ตาม
“ถ้าด้วยผลประกอบการตอนนี้ ไม่ได้แปลว่าส่วนของผู้หุ้นกลับมาบวกหลักร้อยแล้วการบินไทยจะออกจากแผน เพราะตรงตามเงื่อนไข แต่การออกจากแผนด้วยสุขภาพแบบนี้ใครจะสนใจ ผมก็ต้องออกจากแผนที่แข็งแรงวิ่งได้ก่อน แล้วจะนำไปเสนอส่วนของการเพิ่มทุน เพื่อให้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้น และจะย้อนกลับมาเจ้าหนี้ได้ด้วย เพราะแปลงหนี้เป็นทุนจะได้รับหุ้นใหม่ ถ้ามูลค่าหุ้นตัวนี้สุงขึ้น ก็จะได้รับการชดเชยหนี้เต็มจำนวนของส่วนที่แปลงด้วย”
นอกจากนี้เงินสดทีมีอยู่ 42,915 ล้านบาท จะนำไปใช้หนี้ทั้งหมด ซึ่งจะต้องเริ่มจ่ายให้กับเจ้าหนี้ฯราว 8,000 ล้านบาท ในปีหน้าตามแผนฟื้นฟู และจะทยอยจ่ายไปเรื่อย ๆ คาดจนถึงปีสุดท้าย 2577 ปัจจุบันมีหนี้ทั้งหมด 1.4 แสนล้านบาท
สำหรับปีนี้ 2566 ตั้งเป้าหมายผู้โดยสารที่ 9 ล้านกว่าคน รายได้ราว 1.3 แสนล้านบาท อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ราว 77% ส่วนปี 2567 คาดรายได้อยู่ที่ 1.5-1.6 แสนล้านบาท ผู้โดยสาร 12 ล้านบาท และอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร เกือบ 80%
อ่านรายละเอียดงบการเงินฉบับเต็ม : คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2566