ธปท.ไม่ห่วงแบงก์พาณิชย์ ชี้มีเสถียรภาพ แต่กังวลหนี้ครัวเรือนยังสูง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ธปท.เผยระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาสแรก มีเสถียรภาพสูง เอื้อต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ แต่กังวลสัดส่วนหนี้ครัวเรือนยังสูง โดยกลุ่มที่มีภาระหนี้สูง

นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 1 ปี 2566 ว่าระบบธนาคารพาณิชย์มีเสถียรภาพ สามารถทำหน้าที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนที่รายได้ฟื้นตัวช้า และกลุ่มที่มีภาระหนี้สูง รวมถึงการฟื้นตัวของธุรกิจบางกลุ่ม

คอนเทนต์แนะนำ
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566
เช็กปฏิทินเดือนมิถุนายน 2566 มีวันหยุดราชการ-ธนาคาร ตรงกับวันไหนบ้าง
เลือกตั้ง 2566 : เลือกตั้งใหม่นครปฐม "ก้าวไกล"คะแนนนำ แต่ไล่ไม่ทัน

 

 

ระบบธนาคารพาณิชย์มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง สามารถทำหน้าที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง

สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ ในไตรมาส 1 ปี 2566 ขยายตัวที่ร้อยละ 0.51 ชะลอลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากการชำระคืนหนี้ของภาครัฐ ธุรกิจขนาดใหญ่ และ Soft loans รวมทั้งการบริหารจัดการคุณภาพหนี้ โดยธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งระดมทุนผ่านตราสารหนี้

หนี้ครัวเรือนไทยพุ่ง เครดิต บูโร เปิดตัวเลขหนี้เสีย 9.8 แสนล้านบาท

ผู้ว่าฯ ธปท.สะกิดนโยบายหาเสียง "หนี้โต" เพราะประชานิยม

อย่างไรก็ดี สินเชื่อยังขยายตัวได้จากธุรกิจรายใหญ่ในภาคการเงินและพาณิชย์ รวมทั้งสินเชื่อรายย่อยพอร์ตที่อยู่อาศัย และสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นสำคัญ

ด้านคุณภาพสินเชื่อ ธนาคารพาณิชย์มีการบริหารจัดการคุณภาพหนี้และให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่องด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ ส่งผลให้ยอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Non-Performing Loan: NPL หรือ stage 3) ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 ลดลงมาอยู่ที่ 498.0 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมที่ร้อยละ 2.68

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566 ปรับดีขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน ผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น สุทธิกับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินรับฝากและ FIDF Fee กลับสู่ระดับปกติ ประกอบกับกำไร FVTPL จากตราสารอนุพันธ์เป็นสำคัญ แม้ค่าใช้จ่ายดำเนินงานและค่าใช้จ่ายสำรองจะเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ หากเทียบไตรมาสก่อน กำไรสุทธิลดลงร้อยละ 4.0 จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับไตรมาสก่อนมีรายได้พิเศษจากการขายและโอนพอร์ตสินเชื่อรายย่อย แม้ค่าใช้จ่ายสำรองและค่าใช้จ่ายดำเนินงานจะปรับลดลง 

อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มครัวเรือนเปราะบางที่รายได้ฟื้นตัวช้าและมีหนี้สูง และการฟื้นตัวของธุรกิจบางกลุ่ม โดยสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ทรงตัวจากไตรมาสก่อน

ขณะที่ภาคธุรกิจ สัดส่วนหนี้สินภาคธุรกิจต่อ GDP ปรับลดลงต่อเนื่อง ด้านความสามารถในการทำกำไรปรับลดลง แต่ฐานะการเงินโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยยังต้องติดตามผลกระทบจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอลง และบางธุรกิจที่อ่อนไหวต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาสถาบันการเงินยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มเปราะบาง

คอนเทนต์แนะนำ
เลือกตั้ง 2566 : “ก้าวไกล” แจงแนวทางผลักดันนโยบาย ผ่านวาระร่วม-วาระเฉพาะ
เช็กสิทธิ! เปิดสมัครสอบครูผู้ช่วย ปี 2566
MOU คืออะไร? ทำไมกลายเป็นเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล

TOP หุ้น การลงทุน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ