ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ โดยดัชนีดอลลาร์ ขยับขึ้น 0.38% อยู่ที่ 103.8847
นักวิเคราะห์กล่าวว่าตลาดวิตกเกี่ยวกับการเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ไม่คืบหน้า ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย โดยนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐระบุว่า ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลง เพราะพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังตกลงกันไม่ได้
ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าตั้งแต่ต้นสัปดาห์
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังออกมาย้ำว่ารเฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ในการประชุมกลางเดือนหน้า
แต่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายในเดือนเม.ย.
ส่วนวันศุกร์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนเม.ย. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 34.66 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันทำการก่อนหน้าที่ระดับ 34.55 บาท/ดอลลาร์ คาดการณ์ค่าเงินบาทวันนี้มีแนวรับ/แนวต้านที่ 34.50 -34.80 บาทต่อดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักเนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ นอกจากนี้นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนเม.ย.
แนะนำผู้นำเข้าควรซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า เพื่อปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน