ย้อนรอยบึ้มกลางกรุงเขย่าขวัญคนไทย คดี 3 นักโทษอิหร่าน เหตุใดไทยส่งคืนประเทศเพื่อออสเตรเลีย!!


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กลายเป็นประเด็นที่สังคมกำลังตั้งคำถามและเกิดความสงสัยกรณีทางการไทย อนุมัติการส่งตัว 3 นักโทษชาวอิหร่านที่ก่อเหตุระเบิดกลางกรุงเมื่อต้นปี 2555 หลังจากอิหร่านยอมปล่อยตัวนักวิชาการสาวเชื้อสายออสเตรเลีย-อังกฤษ ที่ถูกจำคุกในข้อหาเป็นสายลับ

ไทยส่งนักโทษอิหร่าน 3 คนกลับประเทศ

นักวิชาการ จี้ รัฐแสดงความชัดเจน ปม 2 ประเทศแลกนักโทษ

หากเป็นการเปลี่ยนตัวระหว่างอิหร่านกับออสเตรเลีย ก็เป็นเรื่องปกติ แต่เหตุใดทางการไทย จึงแลกตัวนักโทษ 3 ราย ที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ ในใจกลางเมืองหลวง  

ย้อนไปในช่วงบ่ายของวันที่ 14 ก.พ. 2555 เกิดเสียงระเบิดขึ้นภายในบ้านเลขที่ 66/31 ซอยปรีดีพนมยงค์31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.

จากนั้นคนร้ายได้เรียกรถแท็กซี่เพื่อหลบหนี แต่คนขับไม่จอดรับ จึงปาระเบิดใส่แท็กซี่ที่บริเวณปากซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ทำให้คนขับแท็กซี่ได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาตำรวจสายตรวจ สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุ จึงรุดไปตรวจสอบพบคนร้าย ที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนเกษมพิทยา โดยคนร้ายจึงพยายามปาระเบิดใส่ตำรวจ แต่เกิดหล่นลงพื้น จึงระเบิดใส่ตัวเองได้รับบาดเจ็บแขน และ ขาขาด ทราบชื่อ คือ นายซาอิด โมราดิ สัญชาติอิหร่าน

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 66/31 ซอยปรีดีพนมยงค์31 ซึ่งเป็นจุดแรกที่เกิดเหตุระเบิดพบสภาพพังเสียหายทั้งหลังจากแรงระเบิด และภายในบ้านยังพบกับระเบิดแสวงเครื่องหลายรายการ เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า ขณะเกิดเหตุมีคนร้ายทั้งหมด 3 คนอาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังนี้

เมื่อเกิดเหตุระเบิดขึ้นในบ้านเช่าคนร้ายทั้ง 3 คน ต่างแยกย้ายกันหลบหนี นายซาอิด โมราดิ ไปไม่รอดเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการทำระเบิดหล่นใส่ตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

อัยการ-ราชทัณฑ์ ยันโอน 3 นักโทษอิหร่านตามกฎหมาย

ส่วนคนร้ายอีก 2 คนตำรวจได้ตรวจสอบประวัติจนทราบชื่อคือ นายมูฮัมหมัด ฮาซาอิ และ นายซีดา การ์ด ซาเดด มะห์ซุส เชื่อว่าทั้ง 2 คนต้องหลบหนีออกนอกประเทศจึงประสานไปยัง ตม.สนามสุวรรณภูมิ ให้ตรวจสอบผู้ต้องสงสัย จนสามารถจับกุมนาย ฮาซาอิ ส่วนนาย มะห์ซุส พบว่าได้ขึ้นเครื่องหลบหนีไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ตำรวจจึงประสานไปยังทางการมาเลเซียอายัดตัว นาย มะห์ซุส

วันต่อมา ( 15 ก.พ. 2555) ตำรวจมาเลเซีย สามารถจับกุมตัวได้ นายมะห์ซุส ขณะเตรียมเดินทางไปยังกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน  

ในขณะนั้น สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ช่วงเดือน ม.ค. 2555 สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เคยออกประกาศเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุระเบิดในกทม. แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ไทยก็ทำการจับกุมชายชาวเลบานอน พร้อมหลักฐานเป็นสารตั้งต้นผลิตระเบิดเหตุระเบิดที่กทม.เกิดขึ้นหลัง เหตุระเบิดที่ประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ซึ่งมีเป้าหมายโจมตีเจ้าหน้าที่ทางการทูตอิสราเอล และจอร์เจีย โดยทางการอิสราเอล กล่าวโทษว่าอิหร่าน และกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ของเลบานอนมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่อิหร่านได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวในเวลาต่อมา

หลังจากตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ก็ทำการสอบสวนและส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมแจ้งข้อหา 1.มีระเบิดไว้ในครอบครอง 2.ทำให้ระเบิด  3.พยายามฆ่าผู้อื่น 4.พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน

ในวันที่ 22 ส.ค. 2556 ศาลมีพิพากษาว่า นายซาอิด โมราดิ จำเลยที่ 1 ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 และมีความผิดในข้อหาใช้วัตถุระเบิดและทำให้เกิดระเบิด โดยพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่และผู้อื่น ให้จำคุกตลอดชีวิต

นอกจากนี้ ให้ชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัททรู 6,691 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 2555 จนกว่าจะชดใช้หมด เนื่องจากระเบิดทำตู้โทรศัพท์สาธารณะเสียหาย และปรับเงิน 100 บาท ฐานพกพาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ส่วน มูฮัมหมัด ฮาซาอิ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 จำคุก 15 ปี และให้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายกับเจ้าของบ้านเป็นเงิน 2 ล้านบาท

ต่อมา ศาลอาญาในกรุงกัวลาลัมเปอร์มีคำตัดสินส่งตัว นายมะห์ซุส มาดำเนินคดี และ รับโทษในประเทศไทย

และในที่สุดทางการไทยก็อนุมัติส่งตัว 3 นักโทษกลับประเทศ โดยระบุว่าเป็นข้อตกลงกับอิหร่าน

“ออสเตรเลีย” ยึดยาไอซ์ ลอตใหญ่ที่สุด ของประเทศ

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ