สาวขับรถเก๋งวูบ พุ่งชนจยย.หนุ่ม-แกร็บฟู้ดเสียชีวิต 2 ศพ
สองหนูน้อยชวนกันขโมยของร้านสะดวกซื้อถูกปรับเป็นเงิน10 เท่า
น.ส.ศศิธร ศรีฉัตร อายุ 48 ปี ชาวอำเภอประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เดินทางไปแจ้งความแทนนางชัชวาลย์ ศรีฉัตร ผู้เป็นแม่ หลังพบว่า เงินในบัญชีธนาคารถูกคนร้ายถอนเงินไป 785,900 บาท โดยให้ข้อมูลระบุว่า แม่กำลังจะใช้เงิน จึงให้นำสมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม คือ ประเภทเพื่อใช้ กับ ประเภทเพื่อออม ไปปรับยอดเงินล่าสุด แต่พบว่าเงินถูกถอนออกไปทั้งที่แม่ไม่ได้ถอนเงิน จึงไปขอ Stetment จากธนาคารเพื่อนำมาเป็นหลักฐาน พร้อมกับนำสมุดบัญชีธนาคาร ทั้ง 2 เล่ม มาแจ้งความกับตำรวจ
โดยตอนแรกสมุดบัญชี เพื่อออม มีเงินฝากสะสมรวม 914,643.67 บาท ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนถึง เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายลักลอบโอนเงินออกจากบัญชี รวม 11 ครั้ง คือ เดือน กุมภาพันธ์ 2563 เงินถูกโอนออกจากบัญชี ไป 2 ครั้ง คือ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 500,000 บาท ถัดมา 1 วัน วันที่ 27 กุมภาพันธ์ มีเงินถูกโอนออกไปอีก 50,000 บาท วันที่ 10 มีนาคม 2563 มีการโอนเงิน 150,000 บาท วันที่ 10 เมษายน 2563 โอนเงิน 12,000 บาทจากนั้น คนร้าย เว้นระยะไปประมาณ 4 เดือน ก่อนที่ วันที่ 14 สิงหาคม 2563 จะโอนเงินออกไปอีก 8,000 บาท และ วันที่ 17 สิงหาคม 2563 โอนเงิน 25,000 บาท ส่วนเดือนตุลาคม มีการโอนเงินในวันที่ 10 ตุลาคม โอนเงิน 18,000 บาท วันที่ 14 ตุลาคม โอนเงิน 6,900 บาท วันที่ 17 ตุลาคม โอนเงิน 8,000 บาท
ล่าสุดเดือนพฤศจิกายน วันที่ 3 พฤศจิกายน มีเงินถูกโอนออกไป 6,000 บาท และ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2,000 บาท ซึ่งเงินทั้งหมดที่ถูกโอนออก เป็นการโอน จากสมุดบัญชี (เล่มเพื่อออม) ไปที่ สมุดบัญชีของแม่ (เล่มเพื่อใช้) ก่อนจะถอนเงินผ่านแอปพลิเคชั่น โดยไม่ต้องมีบัตรเอทีเอ็ม หรือ สมุดบัญชี
น.ส.ศศิธร กล่าวต่อว่า สมุดบัญชีธนาคาร (เล่มเพื่อออม) ของแม่ไม่ได้ผูกกับแอปพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือ โดยแม่ผูกแอปพลิเคชั่นเฉพาะสมุดบัญชีธนาคาร (เล่มเพื่อใช้) แต่จากพฤติกรรมคนร้าย เชื่อว่า น่าจะนำบัญชีธนาคาร (เล่มเพื่อออม) ไปผูกกับแอปพลิเคชั่น บัญชีธนาคาร (เล่มเพื่อใช้) ซึ่งในแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์สามารถทำได้ เพราะชื่อของเจ้าของเป็นคนเดียวกัน ก่อนจะทำการถอนเงินออกไปโดยใช้โทรศัพท์มือถือ ทำให้ตอนนี้ บัญชีธนาคาร ประเภทเพื่อใช้ เหลือเงิน 423.60 บาท ส่วนบัญชีธนาคาร ประเภทเพื่อออม เหลือเงิน 198.62 บาท