หญิงวัย 45 ปีร้องสามีหอบเงิน 12 ล้านหนี หลังถูกหวย
พ่อค้าตาบอด ร้องตร.ถูกขโมยลอตเตอรี 450 ใบ
ล่าสุดตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว โดยกำลังอยู่ระหว่างการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ขณะที่ทีมข่าวตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้พิการอีกหลายพื้นที่ ถูกกระทำในลักษณะเดียวกันและคาดว่าคนร้ายฉกลอตเตอรีทำเป็นขบวนการ
ความคืบหน้าล่าสุดคดีที่มีคนร้ายแอบฉกลอตเตอรีจากคนตาบอดไป 450 ใบ รวมมูลค่าเกือบ 5หมื่นบาท ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีสุทธิสาร ตอนนี้ตำรวจพบว่าคนร้ายรายนี้ยังไปก่อเหตุที่ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจำนวนหลายครั้ง ซึ่งมีกลุ่มผู้เสียหายเข้าเเจ้งความที่ สน.พญาไท นับ 10 ราย
ซึ่งทางชุดสืบสวนมีหลักฐานสำคัญ เป็นภาพวงจรปิดขณะที่คนร้ายทำทีไปซื้อลอตเตอรีจากชายตาบอดที่ย่านสุทธิสาร จากนั้นได้ใช้มือรวบลอตเตอรีทีเดียวหลายๆใบ แล้วดึงออกจากแผงพร้อมกันในทีเดียว
ก่อนจะแบ่งลอตเตอรีส่วนใหญ่ซึ่งอยู่ในมือข้างซ้าย โดยซุกซ่อนไว้ใต้ธนบัตรเพื่ออำพรางปกปิด จากนั้นก็จะแอบยัดใส่กระเป๋าเสื้ออีกทีหนึ่ง
ส่วนที่มือขวาซึ่งมีลอตเตอรีอยู่จริงและทำการซื้อจริงๆ ก็จะยื่นให้คนขายนับว่าทั้งหมดกี่ใบพร้อมจ่ายเงินให้จริง
แต่ว่าคนขายซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตาไม่อาจทราบได้ว่า คนร้ายดึงลอตเตอรีพร้อมกันทั้งสองมือเพราะว่ามองไม่เห็น อีกทั้งคนร้ายใช้กลวิธีการดึงพร้อมกันซึ่งคนขายจะได้ยินแต่เสียงดัง “แป๊ก”แค่ครั้งเดียวเท่านั้น (เสียงตอนเวลาดึงหวยออกจากแผงที่มีแม็กติดเย็บไว้) แต่คนขายไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วลอตเตอรีถูกดึงไปทั้งสิ้นกี่ใบกันแน่ ซึ่งคนร้ายใช้เวลาเลือกซื้อลอตเตอรีแต่ละครั้งนานนับครึ่งชั่วโมง
ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายเทวา ปะนาเส อายุ 40 ปี ผู้เสียหายคนขายลอตเตอรีพิการทางสายตา ได้เล่าถึงพฤติกรรมของคนร้ายผู้ก่อเหตุว่า เมื่อวันพุธที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีคนร้ายเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 40-50 ปี ผมสั้น รูปร่างท้วม เสียงคล้ายทอม ทำทีเข้ามาซื้อลอตเตอรีจำนวนมาก และมาติดต่อกันเป็นเวลาถึง 3 วัน โดยอ้างว่าเป็นพนักงานบัญชีบริษัทเอกชนในระแวกนั้น
ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า นอกจากเคสที่ย่านสุทธิสารและย่าน อนุสาวรีย์แล้ว ยังมีผู้เสียหายที่เป็นคนขายลอตเตอรีผู้พิการทางสายตาอีกกว่า 5 ราย ทั้งย่านสีลม – สยาม – รวมทั้งอโศกด้วย ซึ่งถูกฉกลอตเตอรี ในลักษณะเดียวกัน และคาดว่าคนร้ายจะต้องกระทำเป็นขบวนการ
ด้าน พ.ต.ท สืบพงศ์ กรุณา รองผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ซึ่งตำรวจรวบรวมหลักฐานจากชื่อเจ้าของบัญชีโอนเงินที่ทิ้งไว้ให้กับผู้เสียหายและเบอร์โทรศัพท์ แต่หากออกหมายเรียกแล้วไม่มาเข้าพบก็จะขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป
