วิเคราะห์สูตร “เคนมผง” คาดมาจากแหล่งที่เดียวกัน
เจาะลึก "เคนมผง" ที่มายาเสพติดมรณะ เมา มัน เสพครั้งเดียวถึงตาย คร่า 7 ศพคืนเดียว
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า จากสถิติสารเสพติดเคตามีนที่ส่งมาให้ ป.ป.ส.ตรวจ ตั้งแต่ปี 2561 ถึงเดือนธ.ค.ปี 2563 มีจำนวนทั้งหมด 651 คดี ในจำนวนนี้มีอยู่ 44 คดี ที่พบว่ามีการนำเคตามีนไปผสมกับสารเสพติดชนิดอื่น ได้แก่ เคตามีน ผสมไอซ์ เคตามีน ผสม ยาอี เคตามีน ผสม โคเคน และเคตามีน ผสมสารอื่นๆ เช่นพาราเซตามอล หรือ คาเฟอีน เป็นต้น
แต่ทั้งหมดที่ตรวจพบ 44 คดี เป็นการผสมสารเคตามีนกับสารอีกชนิด รวมกันเป็น 2 ชนิดเท่านั้น ไม่เคยเจอที่ผสมหลากหลายสารเหมือนกับ "เคนมผง" ที่ผสมทั้งหมด 4 ชนิดเข้าด้วยกัน
เลขาธิการ ป.ป.ส. เชื่อว่า เคนมผงไม่ได้เกิดจากการผสมที่แหล่งผลิตยาเสพติด แต่เป็นผู้ค้ารายย่อย หรือ ผู้เสพ นำมาผสมเอง เพราะจากการจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ที่ผ่านมา ยังไม่พบว่ามีการนำเคตามีนไปผสมกับอย่างอื่น
สำหรับการนำเคตามีนไปผสมกับสารเสพติดชนิดอื่น ป.ป.ส. มีข้อมูลว่าเป็นที่นิยมในหมู่นักเสพต่างประเทศมานานแล้ว แต่ในประเทศไทยถือว่ายังไม่เป็นวงกว้างนัก เชื่อว่า การผสมดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะหวังผลเรื่องการออกฤทธิ์ มากกว่า ทำให้ราคาสารเสพติดสูงกว่าขึ้น เนื่องจากตามปกติคนที่เสพเคตามีนไปนานๆจะมีอาการดื้อยา และมักมองหาสารตัวใหม่ที่ออกฤทธิ์แรงขึ้น
แฉ!แหล่งกำเนิด “เคนมผง” อยู่กลางกรุงย่านวัดพระยาไกร
เลขาธิการ ป.ป.ส. ระบุว่า จากการสืบสวนเชิงลึก ตอนนี้ทราบแล้วว่าผู้จำหน่ายและผู้เสพเป็นใครบ้าง แต่ยังไม่สามารถสืบไปถึงผู้ค้ารายใหญ่ที่เป็นต้นตอจริงๆได้
ทีมข่าวสอบถามไปยัง ผศ.นพ.ณัฐ ตันศรีสวัสดิ์ หัวหน้าฝ่ายนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ ผู้เสียชีวิตที่เสพเคนมผง พบสารเสพติดหลายชนิด อยู่ในร่างกายของผู้ตาย ส่วนการตรวจสอบเพิ่มเติมตอนนี้ อยู่ระหว่างการตรวจยืนยัน และตรวจวัดปริมาณสารเสพติดในร่างกาย คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์
ขณะที่ พล.ต.ต.ธนิต จิรนันท์ธวัช นายแพทย์ (สบ.6) ปฎิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงานพยาธิวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า สารเสพติดทั้งหมดในร่างกาย ออกฤทธิ์เสริมกัน รวมถึงจากข้อมูลพบว่า สูตรเคนมผง ไม่ตายตัว มีหลายสูตรขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ว่าจะผสมแบบใด
รวบเอเย่นสาวค้า “เคนมผง” ย่านสายไหม เผย ส่งวันละไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
