ลูกติดยา โมโห ถูกแม่บ่นเรื่องขอเงิน เผาบ้านวอดทั้งหลัง
นี่เป็นช่วงจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจ ใช้อาวุธปืนยิงวิสามัญ นายนนทชัย กรานเคารพ หรือโอ๊ต อายุ 35 ปี หลังเกิดอาการคลุ้มคลั่งก่อเหตุเผาบ้าน ใช้อาวุธมีดฆ่าแม่ของตนเอง และใช้อาวุธมีดไล่ทำร้ายร่างกายผู้อื่น
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเสาธง ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีชายคลุ้มคลั่งเผาบ้านตัวเองและทำร้ายผู้อื่นในซอยบางพรม 54 เขตตลิ่งชัน กทม. จึงเข้าไปตรวจสอบและนำไปสู่เหตุการณ์เศร้าสลดขึ้น มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ คือนางอี้ด แม่ผู้ตาย อายุ 64 ปี สภาพศพนอนหงายมีพบาดแผลทั่วใบหน้า ลิ้นถูกตัดขาด กรามถูกเลาะขาด ตามร่างกายถูกเฉือนแล้วยัดพระเครื่องไว้ภายใน
จากการสอบสวนทราบว่า นายนนทชัย เกิดคลุ้มคลั่ง อาละวาด ใช้ มีดดาบยาวประมาณ 1 เมตรทำร้ายแม่จนเสียชีวิต ก่อนที่จะใช้อาวุธมีดเฉือนร่างของแม่ออกเป็นชิ้นๆและจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ชาวบ้านที่พบเห็นแจ้งตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อม แต่ไม่เป็นผลนายนนทชัย ยังพยายามใช้อาวุธมีดไล่ฟันแทงชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงที่เตรียมไว้สำหรับดับเพลิงฉีดใส่ แต่คนร้ายพยายามจะปีนกำแพงหนีและวิ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ก่อนถูกวิสามัญ เสียชีวิต
จากการสอบถาม นายณรงค์ จ้อยเจือ พี่ชายของนางอี๊ด ผู้เสียชีวิต เล่าว่า 2 วันที่แล้ว ก่อนเกิดเหตุ นางอี๊ดเคยวิ่งหนีออกจากบ้านมาขอความช่วยเหลือ เพราะถูกลูกชายคลั่งอาละวาด ตนเห็นท่าไม่ดีจึงพาเข้ามาหลบในบ้าน ทำให้ลูกชายนางอี๊ด โมโห พยายามจะเข้ามาทำร้ายร่างกายตนและภรรยา รวมทั้งทำลายข้าวของในบ้าน เป็นแบบนี้มาตลอดหลายปี ซึ่งญาติพี่น้องไม่รู้จะทำยังไง เอือมระอากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อเห็นสภาพศพพี่สาวถูกลูกตัวเองทำร้ายก็รู้สึกตกใจมาก
ขณะที่พี่ชายของนายโอ๊ต เล่าว่า น้องชายเริ่มมีอาการทางประสาทตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุเมื่อ 2 ปีก่อน ประกอบกับมีพฤติกรรมเสพยา ที่ผ่านมาตนเองเคยชวนแม่ไปอยู่ด้วยหลายครั้ง แต่แม่เป็นห่วงน้องชายเพราะเห็นว่าไม่ได้ทำงาน และไม่มีเงินกินข้าว จึงต้องคอยดูแล ช่วงหลังน้องชายเริ่มพูดไม่ค่อยรู้เรื่องทำให้ตนมีปัญหากันบ่อย จึงตัดสินไม่เข้าบ้าน เวลาเจอแม่ก็นัดกันออกมาเจอข้างนอกแทน
ส่วนปมการก่อเหตุครั้งนี้ ตนมั่นใจว่าเป็นเพราะเเรงกดดันปัญหาในครอบครัว คาดเกิดจากความเครียดและควบคุมตัวเองไม่อยู่ บวกกับมีอาการเมายาเสพติดร่วมด้วย
ด้านพล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ระหว่างเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ รองสารวัตรจราจร สน.บางเสาธง ได้เข้ามาตรวจสอบก็พบชายผู้ก่อเหตุ วิ่งมุดช่องหลังบ้านออกมาที่ป่ากล้วยและปรี่เข้าใส่ เจ้าหน้าที่จึงยิงปืนตักเตือนไปหลายนัด และสั่งให้วางมีด พอจะเข้าไปเตะสกัดมีดออก คนร้ายก็จับมีดและพุ่งเข้าใส่ จึงจำเป็นต้องวิสามัญดังกล่าว ส่วนที่หน้าบ้านพบศพหญิงสูงวัย เป็นแม่ผู้ก่อเหตุ
จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง พบว่านายโอ๊ต เคยก่อคดีชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ เมื่อปี 2548 ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน
เมื่อพ้นโทษก็มาประกอบอาชีพรับจ้าง ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุเมื่อปี 2563 และไม่ได้ประกอบอาชีพใดอีก
ส่วนสาเหตุที่ลงมือนั้น ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงยังต้องรวบรวมหลักฐานว่ามีประวัติเสพยาเสพติดหรือไม่ ส่วนประเด็นที่่ญาติผู้ตายบอกว่าเคยแจ้งเรื่องให้ตำรวจ มาคุมตัวนายนนทชัย ไปแล้วหลายครั้งจากเหตุคลุ้มคลั่งบ่อย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการให้นั้น ก็ขอไปตรวจสอบข้อเท็จอีกครั้ง
ญาติแจ้งความจับ ตร.ยิงดับชายคลั่ง ชี้ทำเกินกว่าเหตุ
