“ลุงพล”ปัดทำร้ายนักข่าว แค่อยากถือไมค์


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กลายเป็นกระแสดราม่าร้อนแรงภายในวันเดียว คลิปที่ ลุงพล พยายามแย่งไมค์นักข่าว และมีการทุบตีผู้สื่อข่าว ที่เกาะติดสถานการณ์บ้านกกกอก ล่าสุดเมื่อคืนนี้เป็นการเปิดใจครั้งแรกของ ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายนักข่าว แค่อยากจะถือไมค์เท่านั้น และอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“ลุงพล” อ่วม เสี่ยงโดนข้อหาหลอกลวงปชช. หลังศาลตะเคียน ไม่ใช่ไม้ตะเคียน

“ลุงพล-ยูทูบเบอร์” สมประโยชน์ในโลกออนไลน์

หากย้อนไปดูคลิปล่าสุดในยูทูปช่อง "ลุงพล ป๋าแต๋นแฟมิลี่" พบว่าเพิ่งมีการลงคลิปของลุงพลและป๋าแต๋นไปเพียงแค่ 1 วันก่อนเกิดเรื่องเท่านั้น  โดยในคลิปเผยให้เห็นลุงพลและป้าแต๋น มายืนรับลมหนาวอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง ขณะที่ยูทูปเบอร์กำลังถ่ายอยู่นั้นลุงพลอยู่นั้น ลุงพลก็ได้เผยความในใจ

ขณะที่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้ออกแถลงการณ์ประนาม 'ลุงพล' ใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายนักข่าว พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย

แถลงการณ์ดังกล่าวโดยมีใจความ ระบุว่า ทางสมาคมฯ ในฐานะองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน เห็นว่าการกระทำดังกล่าวกับนักข่าว ที่ทำหน้าที่ด้วยความสุจริตในการสัมภาษณ์ข้อเท็จจริง แต่ถูกทำร้ายไม่อาจยอมรับได้ เพราะถือเป็นการกระทำที่รุนแรง ขัดขวางการทำหน้าที่สื่อมวลชน และคุกคามต่อสิทธิเสรีภาพการรับรู้ข่าวสารของประชาชน  ดังนั้นจึงขอประณามการกระทำนี้ โดยเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด และขอเตือนให้องค์กรสื่อต้นสังกัดและผู้สื่อข่าว ให้ปฏิบัติหน้าที่ในสนามข่าวด้วยความระมัดระวัง และมีสติในทุกสถานการณ์ระหว่างการทำข่าวที่มีระยะประชิดตัวแหล่งข่าว ที่อาจมีความเสี่ยงในการแสดงทางอารมณ์ ที่นำมาสู่การคุกคามหรือทำร้ายผู้ทำข่าว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันขึ้นอีก

ส่วนความคืบหน้าการนำชาวบ้านกกกอกมาเข้าเครื่องจับเท็จเพื่อคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่นั้น  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  เปิดเผยว่า  ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนแจ้งว่าผลอย่างเป็นทางการยังไม่ออก ทั้งนี้เมื่อผลออกมาอย่างเป็นทางการต้องมีการแปลผลและฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อย 2-3 คน  โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ 

สำหรับการแปลผลเรื่องพวกนี้ต้องเอาทฤษฎีมาตั้งก่อน จากนั้นเอาข้อเท็จจริงที่ได้จากการตรวจมาประยุกต์ไปตามทฤษฎี แต่ต้องฟังหลักฐานอื่นประกอบ ไม่ใช่จะจบแค่เครื่องจับเท็จเราต้องฟังผลจับเท็จจริงของทุกคน ไม่ใช่แค่ลุงพล อย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งผลของเครื่องจับเท็จสามารถนำมาเป็นพยานในชั้นศาล แต่ต้องฟังเหตุผลอื่นประกอบด้วย  คดีนี้ทางสังคมติดตามอยู่ ตำรวจก็ทำด้วยความรอบคอบ ต้องมีพยานหลักฐานแน่นหนา ไม่ให้ผู้ต้องหาดิ้นหลุดได้ในชั้นศาลได้  และเชื่อว่าคนทำผิดทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ คงนอนไม่หลับอยู่แล้ว

ด้าน นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดมุกดาหาร ได้เข้าไปตรวจสอบหลังได้รับร้องเรียนเรื่องดังกล่าวที่บ้านของลุงพลแล้ว ได้รับรายงานว่าเป็นไม้มะค่าแต้ เป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก. เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังได้รับรายงานอีกว่า ลุงพล รับสารภาพว่า นำไม้ดังกล่าวมาจากลำน้ำที่ไหลมาติดแถวบริเวณบ้าน จึงนำมาไว้ที่บ้านพัก  แต่ชาวบ้านคิดไปเองว่าเป็นไม้ตะเคียน และลุงพลยังอ้างอีกว่า ไม่ได้ชักชวนให้ชาวบ้านมากราบไหว้ แต่ชาวบ้านนำธูปเทียนมากราบไหว้กันเอง

นายอดิศร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การครอบครองไม้มะค่าแต้ ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม ประเภท ก. จึงถือว่ามีความผิด โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้  ได้เข้าแจ้งความในข้อหามีไม้หวงห้ามในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับลุงพลแล้ว

 

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ