“ลุงพล”ปัดทำร้ายนักข่าว แค่อยากถือไมค์
“ลุงพล” อ่วม เสี่ยงโดนข้อหาหลอกลวงปชช. หลังศาลตะเคียน ไม่ใช่ไม้ตะเคียน
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2564 นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และและ นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ภรรยา เปิดใจแถลงข่าวหลายประเด็น โดยเฉพาะปมเหตุปะทะนักข่าวทีวีเมื่อวานนี้ ระบุว่า ตนไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เป็นภาพดูไม่ดี ซึ่งไปไวมาก แต่ยืนยันไม่ได้ทำ ทั้งนี้ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผิดก็ยอมรับผิดทุกกรณี พร้อมชี้แจงว่าสำหรับนักข่าว 2 ช่องตนพยายามไปคุยด้วย ยืนยันตนเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาโผงผางไม่ได้เรียบร้อย ใครถามมาก็ตอบไป สัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุแบบนี้อีก ยืนยันไม่ได้ปิดกั้นการทำงานของสื่อ ส่วนประเด็นงดให้สัมภาษณ์สื่อ 2 เดือนนั้น ลุงพลกล่าวว่า ได้คุยกับนักข่าวคนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้คุยกับสื่ออื่น ก่อนยูทูบเบอร์ได้ยิน จึงพยายามมาช่วยปิดกั้น ยอมรับว่าตอนนี้ยังรู้สึกดีกับทุกสื่อและตนต้องอาศัยให้สื่อช่วยจนกว่าคดีนี้จะจบ
เมื่อถามว่านักข่าวทีวียืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด ลุงพลบอกว่า ไม่กังวล ผิดก็ยอมรับผิด ยืนยันสื่อไม่ได้ทำให้อึดอัด แต่ความอัดอั้นที่เข้ามาเริ่มไม่ไหวแล้ว แม้กระทั่งเรื่องบัญชีเงินบริจาค ถามถึงกรณีไปดึงตัวนักข่าวช่องอมรินทร์ทีวี ตั้งใจหรือไม่ ลุงพลกล่าวว่า ต้องถามฟ้า นักข่าว ว่าตนทำจริงหรือไม่ แต่หากภาพมันฟ้องตนก็ยอมรับผิด
เมื่อถามถึงคดีน้องชมพู่ หลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกคนร้ายรู้อยู่แก่ใจจนอาจทำให้นอนไม่หลับ และคดีใกล้จะรู้ตัวคนร้ายแล้ว ลุงพลกล่าวว่า เชื่อว่าถ้าตำรวจรู้ตัว น่าจะทำให้เขานอนไม่หลับ รู้สึกดีใจที่คดีใกล้เข้ามา เพราะก็อยากเห็นคนร้ายตัวจริง ถ้าจับคนร้ายก็ดีใจ ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ไม่ใช่ลุงกับป้า เพราะวันนั้นยังไม่เห็นน้องชมพู่เลย พร้อมยืนยันไทม์ไลน์ลุงพลยังเหมือนเดิม พยานที่ไปเข้าเครื่องจับเท็จกลับมาก็ไม่มีปัญหากัน
“ลุงพล-ยูทูบเบอร์” สมประโยชน์ในโลกออนไลน์
ทั้งนี้เมื่อถามถึงกรณีที่ลุงพลสั่งให้ยูทูบเบอร์ลบคลิปด้านลบ ลุงพลชี้แจงว่า กิจกรรมบางอย่างอาจไม่เหมาะสม หรือคำพูดไม่สุภาพ ไม่ควรนำไปเผยแพร่เพราะกลัวทัวร์ลง ซึ่งทุกคนเข้าใจกันหมด ส่วนกรณีที่ชาวบ้านไม่พอใจยูทูบเบอร์เกี่ยวกับพฤติกรรมบางอย่าง ลุงพลระบุว่า ส่วนตัวไม่ชอบการเอาเปรียบ ถ้ามีใครเอาเปรียบหรือคุกคามมากเกินไป ก็จะพิจารณาว่าจะให้อยู่บ้านกกกอกต่อไปหรือไม่ ยืนยันว่าหลังจากนี้ยินดีให้สื่อหลักสัมภาษณ์แต่ต้องขอความร่วมมือว่าไม่พาดพิงถึงบุคคลอื่น
ส่วนประเด็นเรื่องที่ลุงพลแทะไม้ เป็นการประชดประชันนั้น ได้ชี้แจงว่าปกติแล้วถ้านิสัยของคนที่เดินป่าเก็บของป่า หรือเป็นพรานป่านั้นถ้าไปเจอขอนไม้จะพิสูจน์ด้วยการฟันและนำมาเคี้ยว หรือ นำมาดม เพราะไม้แต่ละชนิดจะรสไม่เหมือนกัน ซึ่งลุงพลก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ทำเช่นนี้ รวมทั้งสีไม้ เนื้อไม้หรือกลิ่นไม้ ของแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน และไม่ได้เป็นการล้อเลียนแต่อย่างใด
หลังจากที่ทางป่าไม้ยืนยันแล้วว่าไม้นั้นเป็นไม้มะค่า ทางตัวลุงพลนั้นก็ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาให้ใครมากราบไหว้ ขอนไม้นี้นำขึ้นมาด้วยความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น โดยหลังจากนำขึ้นมาจากน้ำแล้วก็ได้มีการตัดหัวตัดท้ายก็พบว่าไม้นั้นมีเนื้อสีเหลืองเหมือนไม้ตะเคียน ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และประเด็นที่มีการลือกันมาว่าลุงพลนั้นให้ลบคลิปด้านลบของลุงพลออกนั้น ทางลุงพลชี้แจงว่าที่ยูทูปเบอร์มาถ่ายชีวิตประจำวันต่างๆนั้นบางอย่างมันก็ดูไม่เหมาะสมจึงขอความร่วมมือให้ลบภาพออกเท่านั้น
นอกจากนี้ ลุงพล ยังชี้แจงถึงปมเปิดบัญชีรับบริจาคว่า สำหรับยอดเงินในบัญชีรับบริจาคมียอดรวมทั้งหมด 8.8 แสนบาท ก่อนเบิกทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรก 1.5 แสนบาท ครั้งที่สองประมาณ 1 แสนบาท และครั้งที่สามเบิก 3 แสนบาท เพื่อนำไปเทปูนสำนักสงฆ์ ทำให้ตอนนี้ยอดเงินเหลืออยู่ 3.2 แสนบาท ซึ่งเงินที่เหลือจะนำไปสร้างห้องน้ำและซ่อมหลังคาสำนักสงฆ์
เมื่อถามว่าการเปิดรับบริจาค เหตุใดจึงไม่มีคณะกรรมการทั้งคนของสำนักสงฆ์และชาวบ้านเข้ามาเกี่ยวข้อง ลุงพลชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ได้เจ้าอาวาสไปธนาคารแล้ว แต่เนื่องจากเป็นสำนักสงฆ์ จึงไม่มีเอกสารที่จะเปิดได้ ธนาคารจึงแนะนำให้เปิดอีกวิธี โดยใช้ 3 ชื่อคือตนเอง ผู้ช่วยหมู่บ้านกกกอก และยูทูบเบอร์ ส่วนที่ดึงยูทูบเบอร์มา เพราะจะได้รู้เห็นและตรวจสอบได้ แต่หลังเปิดบัญชีรับบริจาคมีภาพไม่เหมาะสม โดยมีผู้นำภาพบุคคลมาแอบอ้างด้วย ซึ่งยืนยันไม่ได้ทำ และมีนักข่าวขอให้ปิดบัญชี พอถึงวันจันทร์จึงได้ไปปิดบัญชี
ส่วนกรณี นายอัจฉริยะ ไลฟ์สดอ้างถึงขบวนการทางไสยศาสตร์หลัก 10 ล้าน ลุงพล บอกว่า สิ่งที่ทุกคนสงสัย ตำรวจทำหน้าที่อยู่ ส่วนตัวเชื่อว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์
ด้านป้าแต๋น ภรรยาลุงพล กล่าวว่า เป็นห่วงลุงพลมากกว่า เพราะหลายเรื่องที่ออกมาไม่ตรง เราไม่พยายามโต้ตอบ เราอยากอยู่แบบชาวบ้าน ไม่ต้องการเป็นดารา