ทนไม่ไหว! “แม่น้องชมพู่” ร้องเรียน ถูกยูทูบเบอร์คุกคาม


โดย PPTV Online

เผยแพร่




พ่อและแม่ “น้องชมพู่” หอบหลักฐานเข้าร้องเรียนปลัดอำเภอดงหลวง หลังถูกกลุ่มยูทูเบอร์คุกคาม นำข้อมูลเท็จไปเผยแพร่จนถูกโจมตี เผยมีชาวบ้านกกกอกลงชื่อยืนยันถูกคุกคามและละเมิดสิทธิอีกกว่า 40 คน พร้อมเรียกร้องให้ออกจากหมู่บ้าน

“ลุงพล-ยูทูบเบอร์” สมประโยชน์ในโลกออนไลน์

ย้อนชีวิต “ลุงพล” ผู้ต้องสงสัย สู่ คนดัง

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ยังคงบรรดายูทูบเบอร์ และสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวในหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาฝ่ายปกครองจังหวัดมุกดาหาร นำโดย นายประหยัด คูณมี  ปลัดอาวุโสอำเภอดงหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่มาพูดคุยและรับฟังปัญหาประเด็นที่ชาวบ้านเคยร้องเรียนได้รับความเดือดร้อนจากยูทูบเบอร์

 โดยเจ้าหน้าที่เปิดให้ชาวบ้านเข้าให้ข้อมูลที่บริเวณวัดบ้านกกกอก ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร โดยไม่ให้บรรดาเหล่ายูทูบเบอร์เข้ามาร่วมฟัง  ซึ่งมีชาวบ้านมาร้องเรียนกว่า 40 คน  ในจำนวนนี้รวมถึง นางสาวิตรี และนายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อและแม่น้องชมพู่ ซึ่งนำเอกสารหลักฐานกว่า 20 ชุด มาร้องเรียนด้วย  ในจำนวนนี้รวมถึง นางสาวิตรี และนายอนามัย วงศ์ศรีชา พ่อและแม่น้องชมพู่ ซึ่งนำเอกสารหลักฐานกว่า 20 ชุด มาร้องเรียนด้วย โดยบอกว่าได้รับความเดือดร้อนจากการคุกคามของเหล่ายูทูบเบอร์และเพจต่าง ๆ มานาน  จนทนไม่ไหว จึงนำหลักฐานมาให้เป็นทั้งข้อความและข้อมูลที่กลุ่มยูทูเอาไปลงจนเกิดความเสียหาย  แม้ที่ผ่านมาจะไม่เคยตอบโต้ แต่กลุ่มเหล่านี้ก็ไม่หยุด คุกคามทุกเรื่อง แถมยังใช้ถ้อยคำหยาบคาย  หากเป็นไปได้ ตนอยากให้กลุ่มยูทูบเบอร์ออกไปจากหมู่บ้าน เพราะสร้างความเดือดร้อนไม่ใช่เฉพาะกับตนคนเดียว ชาวบ้านคนอื่นก็ได้เดือนร้อนด้วย

นอกจากนี้ ช่วงสายมี นายชัชวาลย์  ทองชน นายอำเภอดงหลวง พร้อมด้วยผู้ติดตาม 1 คน เข้าพบนายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ที่บ้านพัก และเข้าไปพูดคุยกันเพียงลำพัง ห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้อเข้าไปในบ้าน  โดยมีเหล่าบรรดายูทูบเบอร์เดินวนเวียนอยู่รอบบริเวณบ้าน ประมาณ 1 ชั่วโมง นายอำเภอก็เดินทางกลับ โดยปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ ส่วนลุงพล ก็เดินออกมาจากบ้านด้วยใบหน้าเรียบเฉย และปฏิบัติตัวตามปกติ

 

หากย้อนดูตลอดทั้งสัปดาห์นี้ พบว่า นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” ถูกแจ้งความติด ๆ กัน 4 คดีแล้ว เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม ที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงพื้นที่ตรวจสอบไม้บ้านลุงพล ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.กกตูม ข้อหา “ครอบครองไม้หวงห้าม (ไม้มะค่าแต้) โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้

ในวันเดียวกัน นายนภัส ปราณีตพลกรัง ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายไชย์พล ที่ สภ.กกตูม ในข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา หลังจากถูกทุบหลัง

ต่อมา ช่วงเช้าวันนี้ (22 มกราคม) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายไชย์พล ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในข้อหา “บุกรุกป่าสงวน” ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวน จากการก่อสร้างพญานาค

จนกระทั่งช่วงบ่าย นายนภัส ปราณีตพลกรัง ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี เข้าแจ้งความกับนายไชย์พลเพิ่มที่ สภ.กกตูม  ในข้อหา “พยายามชิงทรัพย์” จากการแย่งไมค์เมื่อวันที่ 19 มกราคม

 

ในวันเดียวกัน นายนภัส ปราณีตพลกรัง ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายไชย์พล ที่ สภ.กกตูม ในข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” ตามประมวลกฎหมายอาญา หลังจากถูกทุบหลัง

ต่อมา ช่วงเช้าวันนี้ (22 มกราคม) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายไชย์พล ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในข้อหา “บุกรุกป่าสงวน” ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวน จากการก่อสร้างพญานาค

จนกระทั่งช่วงบ่าย นายนภัส ปราณีตพลกรัง ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี เข้าแจ้งความกับนายไชย์พลเพิ่มที่ สภ.กกตูม  ในข้อหา “พยายามชิงทรัพย์” จากการแย่งไมค์เมื่อวันที่ 19 มกราคม

 

นายปรัชญา เปี่ยมการุณ อ.ประจำวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มศว. เคยให้สัมภาษณ์พีพีทีวี วิเคราะห์ปรากฏการณ์สื่อมวลชนกับกรณีลุงพล ว่า สตอรี่ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นมุมบวกหรือมุมลบ ก็สามารถขายเป็นข่าวได้ เพราะ สื่อมีหน้าที่นำเสนอข่าวเหตุการณ์ที่เป็นจริง ส่วนที่เป็นประเด็นดราม่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะจริตคนส่วนใหญ่ชอบเรื่องแบบนี้

นายปรัชญา ยังบอกอีกว่า กรณีของลุงพลเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เพราะ ทั้งลุงพล และ สื่อที่นำเสนอต่อเนื่อง ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ ผลทางคดีหลังจากนี้ จึงน่าติดตามว่าจะออกมาอย่างไร

 

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ