ผู้ต้องหาเผารถส่งผู้ต้องหา หลบหนีระหว่างไปเรือนจำ  


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เหตุระทึกที่เกิดขึ้นในจังหวัดอุดรธานี เมื่อรถส่งผู้ต้องหาของตำรวจ สภ.หนองแสง เกิดไฟไหม้ทั้งคัน ระหว่างนำตัวผู้ต้องหา 4 คนส่งเรือนจำ โดยปรากฏว่าเหตุการณ์คนนี้มีคนตั้งใจทำให้เกิดเพลิงไหม้

แฟนสาวมั่นใจ"นายหมี"เผาบ้าน ปมเหตุหึงหวง

นี่คือภาพจากคลิปวีดีโอที่ชาวบ้านในจังหวัดอุดรธานี สามารถบันทึกภาพไว้ได้ ในจังหวะที่รถส่งผู้ต้องหากำลังเกิดเพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งคัน  ซึ่งเหตุการณ์นี้ ครั้งแรกศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถขนเงิน ที่บริเวณถนนมิตรภาพ ขาเข้าเมืองอุดรธานี แต่ 5 นาทีต่อมาศูนย์วิทยุรายงานแก้ไขว่า เป็นรถส่งผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง กำลังนำผู้ต้องหา 4 คนมาฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี มีผู้ต้องหาหลบหนีการควบคุมไป 1 คน

ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จึงนำกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบลงพื้นที่  ในที่เกิดเหตุพบรถส่งผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง เป็นรถปิกอัพโตโยต้า ทะเบียน ฮฐ-2946 กรุงเทพมหานคร ดัดแปลงกระบะท้ายเป็นที่คุมขัง จอดอยู่ริมถนนมิตรภาพ ปากซอยราษฎร์บำรุง หันหน้าเข้าตัวเมือง มีไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงไปทั่วคัน โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลบ้านจั่น 1 คัน ระดมฉีดน้ำจนเพลิงสงบ  และพบว่ารถเสียหายทั้งคัน และบริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ริมถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.โนนสูง อ.เมือง ควบคุมผู้ต้องหาไว้ 3 คน เป็นผู้ต้องหาคดีเสพยาบ้าคือ นายอนันตชัย ทำประชม อายุ 23 ปี , นายอนุชา ธุลลี อายุ 18 ปี ถูกใส่กุญแจมือไว้ด้วยกัน และนายเล็ก นามสมมุติ อายุ 17 ปี มีอาการเจ็บหน้าอกมีหน่วยกู้ชีพปฐมพยาบาล และนำส่งโรงพยาบาลอุดรธานี

ส่วน ร.ต.ต.มนตรี สารพันธุ์ รองสารวัตรปราบปรามทำหน้าที่ขับรถส่งผู้ต้องหาคันที่ถูกเพลิงไหม้ ได้วิ่งติดตามจับกุม นายสมสมัย ไพรเนาว์  อายุ 46 ปี ชาวบ้านตำบลหนองแสง  ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีมียาเสพติดเพื่อจำหน่าย ของกลางยาบ้า 68 เม็ด และยาไอซ์ 3.37 กรัม ที่หลบหนีไป โดยมีการแจ้งตำหนิรูปพรรณหัวล้าน สวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงวอร์มสีดำคาดน้ำเงิน ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยราษฎรบำรุง ที่สามารถทะลุออกไปยังถนนบ้านคำกลิ้ง-บ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง  

สอบสวนปากคำผู้ต้องหา 2 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเสพยาบ้ากับเพื่อน 3 คน ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.หนองแสง ต่อมานายสมสมัยฯ ผู้ต้องหาคดีเสพและขายยาเสพติด ไม่รู้จักกันมาก่อน ถูกนำตัวมาขังไว้ที่เดียวกัน จนเช้าวานนี้ตำรวจได้นำตัวขึ้นรถ เพื่อเอามาฝากขังที่ศาล โดยนายสมสมัย ถูกใส่กุญแจมือติดกับผู้ต้องหาอีกราย 

โดยผู้ต้องหาที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่า นายสมสมัยฯ มีไฟแช็คเพราะเห็นสูบบุหรี่ และได้ใช้ไฟแช็คเผาที่ช่องแอร์ จนไฟลุกไหม้มีควันจำนวนมาก จึงเคาะกระจกบอก ร.ต.ต.มนตรีที่ขับรถทราบ เมื่อรถคุมตัวผู้ต้องหาจอดริมถนน และตำรวจเปิดประตูด้านหลังให้ผู้ต้องหาออกมา นายสมสมัยฯ โวยวายว่ากุญแจมือแน่น ตำรวจจึงคลายกุญแจให้ และอาศัยชุลมุนได้วิ่งหลบหนี

จากนั้นตำรวจทั้งจาก สภ.เมืองอุดรธานี และ สภ.หนองแสง ระดมเจ้าหน้าที่ ออกค้นหานายสมสมัยโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ก็สามารถ สามารถติดตามจับกุมนายสมสมัยฯ ผู้ต้องหาที่หลบหนีได้ในท่อระบายน้ำ ในคลองน้ำหลังร้านทำป้ายโฆษณา ถนนบ้านคำกลิ่ง-บ้านตาด โดยผู้ต้องหาได้ถอดเสื้อแขนยาวสีแดงออก เหลือเสื้อสีน้ำเงินใส่ด้านใน โดยปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนจุดไฟเผารถ ไม่ได้สูบบุหรี่ ไม่มีไฟแช็ค ไม่รู้ไฟไหม้ได้อย่างไร แต่ตัดสินใจหลบหนีเพราะได้โอกาส และคิดถึงภรรยาที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด

จากนั้นในช่วงเย็นวานนี้ที่ลานเก็บรถของกลาง สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบสภาพของซากรถส่งผู้ต้องหาของ สภ.หนองแสง

โดยพล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี  เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยรถควบคุมตัวผู้ต้องหา กำลังจะไปส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่เรือนจำกลางอุดรธานี หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ทำการฝากขังต่อศาล จ.อุดรธานี ผ่านทางวีดีโอคอนเฟอร์เรนท์เสร็จแล้ว ซึ่งเหลือระยะทางอีก 9 กิโลเมตรจะถึงเรือนจำ แต่มาเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้รถควบคุมผู้ต้องหาขึ้น

หลังจากเรานำตัวมา และได้ทำการสอบผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่ไม่ได้หลบหนี โดยถือว่าเป็นประจักษ์พยานในคดีนี้ ซึ่งทั้ง 3 คน ยืนยันชัดเจนว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดจากผู้ต้องหาคนที่หลบหนี ที่มีเจตนาที่ใช้ไฟแช็คเผาบริเวณช่องแอร์ เพื่อให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา โดยช่วงดังกล่าวมีผู้ต้องหาบางคนหลับอยู่ แต่ต้องตื่นขึ้นมา เพราะได้กลิ่นควัน ประกอบกับตำรวจที่มีหน้าที่ในการควบคุม ทราบว่ามีเพลิงไหม้จึงจอดรถข้างทาง แล้วลงมาเปิดประตูด้านหลังให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ลงจากรถ ขณะที่ผู้ต้องหาที่หลบหนี อ้างว่าเจ็บข้อมือ ทางตำรวจจึงคลายล๊อคกุญแจมือให้ แล้วผู้ต้องหาอาศัยช่วงชุลมุน ในขณะนั้นหลบหนี ซึ่งตอนนั้นต้องยอมรับว่าเป็นความชุลมุน เพราะไฟเริ่มไหม้รุนแรงขึ้น จากนั้นจึงระดมกำลัง จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีได้”

โดยหลังจากนี้จะดำเนินการเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกจะดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องหาที่หลบหนี ในข้อหา หลบหนีจากการคุมขัง และจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม คือ วางเพลิงเผาทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ ในส่วนที่ 2 เราจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่าลักษณะเหตุที่เกิดขึ้น จะเกิดขึ้นได้อย่างไรบ้าง โดยทางตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้มาทำการตรวจสอบเพื่อหาความจริงอีกส่วนหนึ่ง ในการหาสาเหตุเพลิงไหม้ คงต้องใช้เวลาบ้าง จึงจะทราบสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริงได้ รวมทั้งพฤติกรรมของผู้ต้องหา ว่าก่อเหตุเพื่อที่ต้องการหลบหนีจริงหรือไม่

เผาทั้งเป็น !!  หนุ่มคลั่ง ราดน้ำมันจุดไฟเผา ปธ.สภาเทศบาลบางเลน

 

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ