ฆ่าปาดคอ “ครูมวย” คาเก๋ง ย่านอ่อนนุช
พาณิชย์ เตือนผู้ประกอบร่วมโครงการ “เราชนะ” ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา-ห้ามรับแลกเงิน
วันที่ 22 ก.พ. 2564 ที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ภรรยาและคนใกล้ชิดติดต่อเข้ารับศพ นายวิชาญ มะลิทอง หรือ แดง ครูมวยและเป็นเจ้าของค่าย789 มวยไทยยิม ย่านรามคำแหง 2 หลังถูกฆ่าปาดคอ เสียชีวิตอยู่ข้างรถยนต์เก๋ง บริเวณปากซอยหมู่บ้านเสรี อ่อนนุช 19 เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลในอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุสามีได้เดินทางออกจากสุพรรณบุรี มากรุงเทพฯ เพื่อแจ้งกับลูกค้าและลูกศิษย์ว่าจะปิดค่ายมวยชั่วคราว เตรียมเข้าอุปสมบทเป็นเวลา 3เดือน ส่วนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นตนเองไม่ทราบรายละเอียด โดยเฉพาะประเด็นที่ว่า สามีจะไปมีปัญหากับใคร หรือ มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น เรื่องนี้ในฐานะภรรยา ก็ยังไม่ทราบ โดยขณะนี้อยากให้เจ้าหน้าที่หาโทรศัพท์ของสามีที่ยังหาไม่เจอ เชื่อว่า จะสามารถอธิบายเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นได้บางส่วน
ขณะที่วันนี้ทีมข่าวพีพีทีวีลงพื้นที่จุดเกิดเหตุหน้าซอยหมู่บ้านเสรีไทย อ่อนนุช 19 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ชุดสืบสวนกลับไปยังพื้นที่เกิดเหตุอีกรอบ เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม ปรากฎว่าตำรวจพบมีดเล่มเล็กขนาดยาวประมาณ 5 นิ้ว มีคราบเลือดติดอยู่ ปักอยู่ในพงหญ้าใกล้กับจุดเกิดเหตุเพียงไม่กี่เมตร คาดว่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุปาดคอครูมวย จากนั้นไม่นาน ถัดไปอีกนิดก็พบโทรศัพท์ที่ถูกทุบทำลายโยนทิ้งกระจัดกระจาย คาดว่าจะเป็นของผู้ตายจึงเก็บรวมรวมเป็นหลักฐาน
สำหรับสภาพศพในที่เกิดเหตุ ผู้ตายมีรอยแผลฉกรรจ์ลักษณะถูกของมีคมบาดรอยเดียวที่บริเวณลำคอ ลึกจนถึงกระดูก นอนเสียชีวิตลักษณะนอนหงาย อยู่ด้านข้างรถเก๋งสีขาว ส่วนที่บริเวณรถพบรอยเลือดทั้งในตัวรถด้านใน และด้านนอกเป็นคราบยาว ลักษณะกระเสือกกระสนลูบไปที่ตัวรถ
ชาวบ้านที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงและได้เห็นศพเมื่อคืนบอกว่า เท่าที่สังเกตผู้เสียชีวิตมีรูปร่างหน้าตาดี ไม่มีร่องรอยฟกช้ำบริเวณอื่น นอกจากบาดแผลที่คอ และใส่กางเกงกลับด้าน ลักษณะเหมือนรูดซิปไม่เสร็จ
ชาวบ้านคนนี้บอกว่า ช่วงเกิดเหตุราว 4-5 ทุ่ม ปกติเวลานี้ในซอยยังมีรถสัญจรผ่านไปมาจำนวนมาก แต่เมื่อคืนนี้เงียบมาก ทำให้ซอยดูค่อนข้างเปลี่ยว ตัวเองได้ยินเสียงหมาเห่า และเสียงกรีดร้อง พอออกมาดูก็เจอตำรวจ และกู้ภัยมากันเต็มพื้นที่แล้ว และคิดว่าเสียงกรีดร้องน่าจะเป็นเสียงของผู้หญิงที่มาพบศพและแจ้งความกับตำรวจ
ทีมข่าวเดินทางมาที่ สน.ประเวศ ซึ่งผู้หญิงที่เป็นคนไปพบศพและโทรแจ้งความ ก็มาเข้าให้ปากคำด้วย เจ้าตัวบอกว่าตอนที่พบศพ เธอกำลังจะมาหาน้าที่บ้านจึงเดินไปดู พบศพนอนอยู่จึงแจ้งความ ส่วนเสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่ชาวบ้านบอก เธอไม่รู้ว่าเสียงใคร แต่ไม่ใช่เสียงของเธอแน่นอน
สำหรับประเด็นการสังหารครั้งนี้ หลายคนคาดว่าอาจมาจากปมชู้สาว เนื่องจากมีรายงานว่า ผู้ตายมีครอบครัวและลูก 1 คน เมื่อช่วงกลางปี 2563 มาติดพันกับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งก็มีสามีแล้ว พอสามีของผู้หญิงจับได้ก็เกิดความโกรธแค้น ถึงขั้นเคยก่อเหตุขับรถไล่ชนครูมวย จนเป็นคดีแจ้งความกันไว้ที่ สน.ประเวศ
จากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุผู้ตาย ถูกลวงอุ้มไปรุมทำร้าย โดยแจ้งความไว้ที่ สน.อุดมสุข
หลังจากเหตุการณ์นั้นทำให้ ผู้ตายต้องพาลูกเมียไปหลบที่ จ.สุพรรณบุรี นานประมาณ 2-3 เดือน ก่อนจะบอกเมียว่า จะมาทำธุระบอกลาอุปสมบทที่กรุงเทพและเสียชีวิตในที่สุด เรื่องนี้ ภรรยาผู้ตาย บอกว่า ตัวเองไม่เคยรู้ว่า สามีเคยถูกอุ้มไปทำร้าย และก็ไม่ทราบว่าใครให้ข่าว
