สบส.จ่อลุยตรวจคลินิก หลังหญิงดูดไขมันดับ
ญาติ สาวดูดไขมันเสริมอกเสียชีวิตจี้คลินิกเยียวยา
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบ สถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ หลังทำการดูดไขมันให้หญิง วัย 54 ปี เป็นน้องสาวอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เสียชีวิตเมื่อวานนี้
โดย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรม สบส. เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบคลินิกแห่งนี้นานกว่า 40 นาที เปิดเผยว่าคลินิกดังกล่าวให้บริการประเภทเวชกรรมทั่วไป เสริมความงาม ศัลยกรรมผ่าตัดขนาดเล็ก ซึ่งแพทย์ที่ให้บริการดูดไขมันกับหญิงผู้เสียชีวิต ทราบว่าเป็นอดีตแพทย์เวชกรรม อายุ 72 ปี ที่เกษียนอายุราชการไปแล้ว ส่วนเจ้าของคลินิกเป็นนักธุรกิจ
สำหรับตึกคลินิกแห่งนี้เป็นอาคาร 3 ชั้น โดยชั้น 1 แผนกตอนรับ ชั้น 2 ให้บริการความงาม และเก็บอุปกรณ์ยา ส่วนชั้น 3 เป็นห้องผ่าตัดขนาดเล็ก ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานที่ได้ขออนุญาตไว้ ภายในห้องผ่าตัดที่เกิดเหตุ ตรวจสอบพบว่า ตำรวจได้นำเอาเครื่องมือที่ใช้ในการดูดไขมัน และอุปกรณ์วัดสัญญาณชีพ ไปเป็นพยานหลักฐานทางคดีเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่ผิดกฎหมายคือ ทางคลินิกแจ้งเปิดบริการทำการ เวลา 17.00 - 20.00 น. แต่พบว่าผู้ตายมาใช้บริการ 12.00-14.00 น. จึงถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ในฐานประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการสั่งให้ปิดบริการคลินิก เพราะยังไม่ใช่ข้อหาร้ายแรง
ในส่วนกรณีของผู้ป่วยเสียชีวิต ทาง สบส.จะทำหนังสือเชิญหมอที่ดำเนินการหัตถการกับผู้เสียชีวิตไปให้ข้อมูล กับทางแพทย์สภา เพื่อพิจารณาว่าดำเนินการไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมทางคลินิกไม่ดำเนินการส่งตัวผู้เสียชีวิตไปรักษายังโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนนั้น ทางคลินิกชี้แจงกลับมาว่า อยู่ระหว่างการส่งต่อโรงพยาบาล แต่อาการผู้เสียชีวิตในขณะนั้นไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้าย จึงช่วยคืนฟื้นคืนชีพบนเตียงผ่าตัด
อธิบดีกรม สบส. ยังเผยอีกว่าการดูดไขมัน เป็นที่นิยมในปัจจุบันแต่มีความเสี่ยง จากโรคประจำตัวของผู้รับบริการเอง ทั้งมีการให้ยาลดความเจ็บปวด มีการฉีดยาแก้อักเสบ ยาชา ซึ่งส่งผลให้ความดันตก รวมถึงมีการใช้เครื่องมือสอดเข้าไป หากดูดเยอะหรือเร็วเกินไป ก็มีความเสี่ยงทำให้ช็อคได้ หากประชาชนอยากดูดไขมัน แนะนำให้ทำในสถานบริการที่ปลอดภัย ได้มาตรฐานและถูกฎหมาย
ลูกสาว เผย ข้อข้องใจปมแม่ดูดไขมันเสียชีวิต
ในส่วนญาติผู้เสียชีวิต น.ส.อัยมิญห์ อิทธีรนันท์ ลูกสาวผู้ตาย วันนี้เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สน.หัวหมาก เธอเล่าในวันเกิดเหตุว่า แม่ตั้งใจจะไปดูดไขมันเพราะมีปัญหาส่วนเกินบริเวณเอวด้านหลัง โดยเลือกที่คลินิกแห่งนี้เพราะแม่ไปปรึกษาและได้คำแนะนำ จากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมา และเห็นว่ามีแพทย์ที่คลินิกแห่งนี้มีน่าเชื่อถือและมีการการันตีผลการรักษา รวมทั้งมีรีวิวผลการดูดไขมันให้ดู แม่เธอจึงตัดสินใจเข้าดูดไขมันที่นี่โดยมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดประมาณ 100,000 บาท โดยทางคลีนิกได้นิดคิวเข้าดูดไขมันไว้ในวันที่ 20 ก.พ.64 เวลาประมาณ 14.00 น.
วันนัดบริการทำดูดไขมัน แม่ของเธอไปที่คลินิก เวลาประมาณ 10.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์มาแจ้งเธอว่าแม่ถึงคลินิกแล้วและจะทำการเข้าดูดไขมัน หากเสร็จแล้วจะโทรแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
จนกระทั่งเวลา 13.06 น. คลินิกพยายามโทรติดต่อเธอประมาณ 10 สาย แต่เป็นการโทรทางไลน์ แต่เธอไม่ได้รับสายเพราะไม่ได้เป็นเพื่อนในไลน์จึงไม่มีการแจ้งเตือน ทางคลินิกจึงได้ติดต่อทางน้องชายของเธอให้เข้ามาดูอาการแม่ เพราะชีพจรหยุดเต้น ซึ่งตอนนั้นน้องชายได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอให้นำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที แต่ทางคลินิกก็ไม่ได้ทำตาม รุบว่ากำลังทำ CPR ช่วยชีวิตแม่อยู่ เธอจึงให้แฟนที่อยู่ใกล้ที่สุดเข้าไปดู ก่อนเธอและน้องชายจะตามมาถึงในเวลาประมาณ 13.40 น. และพบว่าแม่ได้เสียชีวิตแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่้แจ้งว่าแม่มีอาการช็อกตั้งแต่นอนคว่ำดูดไขมันซึ่งแพทย์สังเกตอาการว่าผิดปกติจึงจับแม่นอนหงายขึ้นก็พบว่าชีพจรเริ่มอ่อนลง จึงได้ทำ CPR ช่วยชีวิตประมาณ 1.30 ชม. แต่ก็ไม่เป็นผล ทางครอบครัวจึงยังติดใจว่าเหตุใดคลินิกถึงไม่นำตัวแม่ส่งโรงพยาบาลทั้งๆที่โรงพยาบาลอยู่ใกล้เพียง 5 นาที
น.ส.อัยมิญห์ เล่าว่า แม่ของเธอเป็นคนรักสวยรักงาม ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ ไม่เคยแพ้ยาหรืออาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ที่ต้องการดูดไขมันเพราะบริเวณเอวด้านหลังไม่สามารถลดได้ด้วยวิธีออกกำลังกาย
เธอและครอบครัวจึงตั้งข้อสังเกตการเสียชีวิตของแม่เอาไว้ว่าอาจเกิดจากความไม่มีมาตรฐานของสถานบริการ รวมทั้งบุคคลากรทางการแพทย์ที่ถึงแม้จะมีการอ้างว่าขณะที่อยู่ในห้องผ่าตัดจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอยู่แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าแพทย์จะเป็นผู้ลงมือดูดไขมันเองหรือไม่
บหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ซึ่งจะต้องรอผลชันสูตรที่ละเอียดกว่านี้ หากยังไม่มีความชัดเจน ทางครอบครัวก็จะยังไม่เผาศพแม่เด็ดขาด
แพทย์ เผย ภาวะบาดเจ็บในเส้นเลือดอาจทำให้ตายได้
ทีมข่าวพีพีทีวีได้ข้อมูล จากแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน ระบุว่า คนไข้ที่จะได้รับการดูดไขมัน ต้องทำการประเมินเบื้องต้นก่อนที่จะเข้ารับบริการคือ
1.จะต้องประเมินจากรูปร่างคนไข้ หากคนไข้มีน้ำมากเกินไป เกิน 100 กก. และลดความอ้วนอย่างรวดเร็วก็ไม่ควรดูด
2.บริเวณที่จะดูดไขมันหาก เคยผ่าคลอด ผ่าตัด บริเวณนั้นมาก่อนก็ไม่ควรดูดเนื่องจากอาจเกิดการดูดผิดชั้น จากปกติดูดเพียงไขมันใต้ผิวหนัง แต่อาจจะผิดเข้าไปด้านในช่องท้องอาจเกิดความเสี่ยงได้
3.คนไข้มีประวัติเคยตั้งท้อง คลอดลูกไม่แนะนำให้ทำ เพราะจะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแอ ทำให้เกิดช่องตรงกลางที่ไม่มีกล้ามเนื้อและช่องผนังหน้าท้องบาง อาจมีความเสี่ยงเช่นกัน
4.คนไข้ที่มีผนังหน้าท้องเป็นรู หรือ มีไส้เลื่อนออกมา หากเคยมีการผ่าตัดมากก่อน ไม่ควรทำ โดยเฉพาะคนที่อ้วนและชั้นไขมันหนา คนไข้อาจจะไม่รู้ตัวว่ามีไส้เลื่อนด้านใน จะต้องตรวจร่างกายให้ละเอียด
ข้อจำกัดของคนที่ไม่ควรดูดไขมัน คือ คนไข้ที่มีโรคประจำตัวและยังรักษาไม่หายขาด หรือ ยังควบคุมอาการของโรคไม่ได้ ทานยาประจำตัว เช่น ยาละลายลิ่มเลือด เช่น ยาคุม ยารักษามะเร็ง อาจมีความเสี่ยงทำให้เมื่อดูดแล้วเกิดลิ่มเลือดอุดตันในปอดหรือหัวใจได้
สำหรับขั้นตอนที่แพทย์จะต้องระมัดระวังมากที่สุดในการดูดไขมันคือ ขั้นตอนการฉีดยาชาที่ผสมกับน้ำเกลือ ที่จะต้องคำนวณจากน้ำหนักของคนไข้ ซึ่งหากได้รับยาชาเกินขนาด อาจมีอาการปากชา เวียนหัว และอาจถึงขั้นชักและหัวใจหยุดเต้นได้ ซึ่งปกติแล้วตามคลินิกทั่วไปหากคนไข้ดูดไขมันไม่ถึง 2 ลิตรก็จะฉีดแค่ยาชา แต่หากเกิน 2 ลิตร แพทย์จะต้องให้ยาสลบแต่ควรใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจร่วมด้วย ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ดูดไขมันตามหลักการแพทย์จะเป็นลักษณะหัวทู่ไม่ใช่หัวแหลม จึงไม่สามารถทะลุผ่านเนื้อเหยื่อไปได้
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน ยังบอกอีกว่า สิ่งที่น่ากังวลและอาจทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตคนไข้ได้อีกหนึ่งขั้นตอน คือขณะดูดไขมันหากเกิดการบาดเจ็บในเส้นเลือดระดับลึก ซึ่งปกติแล้วแพทย์จะดูดในระดับแค่ชั้นไขมันเพราะมีแค่เส้นเลือดฝอย แต่หากโดนเส้นเลือดใหญ่ มีการฉีกขาดของเส้นเลือดและไขมันหลุดเข้าไปในเส้นเลือด จะทำให้ไขมันเข้าไปอุดในปอดหรือหัวใจ ก็อาจจะทำให้คนไข้ถึงขั้นเสียชีวิตขณะผ่าตัดได้ทันที