"สาวกิ๊กครูมวย" สารภาพลงมือฆ่าปาดคอคนเดียว
ภรรยาครูมวยไม่เชื่อกิ๊กสาวก่อเหตุคนเดียว
ที่สน.ประเวศ ตลอดทั้งวันนี้ (23 ก.พ.) ตำรวจยังคงควบคุมตัวผู้ต้องหา คือ น.ส.พลอยไพลิน คุณานุกรกุล มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีญาติและทนายความส่วนตัวอยู่ด้วย หลังจากที่เมื่อวานถูกสอบมาราธอนไปแล้วกว่า 8 ชั่วโมง
พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผู้กำกับการ สน.ประเวศ ระบุว่า วันนี้ผู้ต้องหายังคงยืนยันว่า ตัวเองลงมือก่อเหตุฆ่าปาดคอครูมวยเพียงคนเดียว ด้วยมูลเหตุจูงใจเรื่องชู้สาว ซึ่งเธออ้างว่าทำไปเพื่อป้องกันตัว เพราะผู้ตายพยายามขืนใจ แต่คำให้การวันนี้มีประเด็นที่น่าสนใจอย่างมาก เมื่อผู้ต้องหาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุได้ติดต่อ นายโอ๊ต ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มมารับตัวเองในจุดเกิดเหตุ ซึ่งตำรวจกำลังอยู่ระหว่างเชิญตัวนายโอ๊ตมาให้ถ้อยคำ และเชื่อมโยงข้อมูลจากกล้องวงจรปิด หากพยานหลักฐานไปถึงและพบว่า พฤติกรรมของนายโอ๊ตเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดในลักษณะใดก็ตาม ก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอน แต่เวลานี้ยังต้องรอเท็จจริงจากทุกฝ่ายเพื่อมาเปรียบกับพยานหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่
วันนี้ ทีมข่าวพีพีทีวี ย้อนลงไปดูพื้นที่เกิดเหตุอีกรอบ พบว่าบริเวณหน้าปากซอยเสรี-อ่อนนุช19 แทบไม่มีกล้องวงจรปิด มีเพียงบ้านหลังหัวมุม แต่ส่องมาไม่ถึงจุดเกิดเหตุ กับบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกับจุดเกิดเหตุ
โดยบ้านหลังนี้ กล้องส่องมาเห็นจุดเกิดเหตุพอดี แต่ฮาร์ดดิสของกล้องเสีย ก็เลยไม่ได้บันทึกภาพ ชาวบ้านที่เป็นเจ้าของกล้องวงจรปิดให้ข้อมูลว่า ตอนเกิดเหตุได้ยินเสียงหมาเห่า และ เสียงกรี๊ด ก่อนกู้ภัยและตำรวจจะมา ก็เลยมาดูกล้องวงจรปิด เห็นเหมือนคนนอนอยู่ เลยแคปภาพเก็บเอาไว้ แต่วิดีโอช่วงเกิดเหตุน กล้องไม่ได้บันทึก เพราะมีปัญหาที่ฮาร์ดดิว
พอรู้ว่าตำรวจจะพาผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ชาวบ้านนละแวกเสรี-อ่อนนุช หลายคนมารวมตัวกันที่จุดเกิดเหตุเพื่อมารอดู บางคนบอกว่าวันที่มาดูศพ ถ่ายภาพเก็บเอาไว้
โดยเห็นชัดเจนว่า กางเกงของผู้ตายใส่กลับด้าน และมีกางเกงในตกอยู่ด้านข้างศพ สภาพไม่ใส่เสื้อและรองเท้า มีแต่รอยเลือด และแผลฉกรรจ์ที่ลำคอเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อว่า น.ส.พลอยไพลินจะเป็นคนลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว เพราะคนที่เคยเห็นผู้ต้องหา ก็คิดว่าเธอมีรูปร่าง ผอม-สูง ไม่น่าจะสู้แรงครูมวยคนเดียวได้
ชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่า เธอมาส่งอาหารให้กับบ้านผู้ต้องหาเป็นประจำ เคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งบ้านของผู้ต้องหาอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียงแค่ซอยเดียวเท่านั้น สามารถเดินไปถึงกันได้ และเมื่อหลายปีก่อน เธอเองก็เห็นเหตุการณ์ที่แฟนของผู้ต้องหาทะเลาะกับครูมวยคนนี้ เธอเล่าว่าตอนนั้น น.ส.พลอยไพลิน นั่งมาในรถยนต์กับแฟน ส่วนครูมวยขับรถจักรยานยนต์ตามมา และปาดหน้ากันจนรถครูมวยล้ม และแฟนหนุ่มก็ถอยรถจะมาทับ แต่ตอนนั้นครูมวยใส่หมวกกันน็อกจึงไม่เป็นอะไรมาก
เบื้องต้นผู้ต้องหาขอใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ปฏิเสธลงพื้นที่ชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่วันที่ 24 ก.พ. นี้ตำรวจเตรียมนำตัว น.ส.พลอยไพลิน ไปขออนุญาตฝากขังต่อศาลพระโขนงต่อไป