ย้อนเหตุ “ฆ่าหั่นศพ” พบสามีภรรยาตบตีกันบ่อย
หลักฐานมัด “เมีย-หลาน” ฆ่าหั่นศพเผาอำพราง
จังหวะที่นายอนันตชัย ผู้ต้องหาซึ่งเป็นหลานของน.ส.วาสนา ผู้ก่อเหตุอีกคน โยนหินให้เจ้าหน้าที่ดูตำแหน่งที่โยนมีดทิ้ง บริเวณบ่อน้ำ หน้าวัดศรีเอี่ยม เขตบางนา จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ลงไปงมหา ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็เจอมีดสปาต้า ความยาว 6-7 นิ้ว
นายอนันตชัย ยอมรับว่าเป็นมีดที่ใช้ก่อเหตุจริง ซึ่งเจ้าตัวรับว่าหลังก่อเหตุก็ไปเปลี่ยนรถจักรยานยนต์และขี่ไปทำงานขับรถแบคโฮแล้วจึงนำมาทิ้งช่วง 5-6 โมงเย็นวันเดียวกัน
จากนั้นนายอนันตชัย พาตำรวจไปชี้จุดที่นำเสื้อคอกลมสีเขียว ซึ่งเป็นเสื้อที่สวมใส่วันเกิดเหตุ ไปทิ้งไว้ ตอนแรกทำทีเป็นบอกจุดผิด ก่อนจะยอมเปิดเผยจุดที่ทิ้งเสื้อจริงๆ ส่วนสาเหตุที่ไม่ยอมบอกจุดทิ้งเสื้อที่แท้จริงแต่แรก เพราะ บนเสื้อมีคราบเลือดผู้ตายติดอยู่
ขณะที่ช่วงเช้าตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ออกมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพิ่มเติมบริเวณรถกระบะ โดยฝ่ายนายอนันตชัย เป็นคนขับรถ ส่วนน.ส.วาสนา เป็นคนนั่งไปด้วย และนำถุงชิ้นส่วนศฑนายสุบิน วางไว้ที่ด้านหลังรถกระบะ
สำหรับระยะทางที่ 2 ผู้ต้องหานำชิ้นส่วนศพนายสุบิน ไปทิ้ง พบว่า จากจุดแรก ใน อ.บางปะอิน ที่ทิ้งแขนขา ห่างจากจุดที่ทิ้งศีรษะ 15 กิโลเมตร ถัดจากนั้น จุดที่ 3 คือ จุดที่ทิ้งลำตัว ที่อ.วังน้อย ซึ่งอยู่ห่างไป 46 กิโลเมตร ส่วนจุดที่ทิ้งเสื้ออยู่ห่างออกไปอีก 100 กิโลเมตร และ ถัดไปอีก 14 กิโลเมตร จึงจะเป็นจุดที่ทิ้งมีด รวมทั้งหมด ผู้ต้องหากระจายชิ้นส่วนศพและอุปกรณ์ก่อเหตุทิ้งในพื้นที่ต่างๆ 5 จุด รวมระยะทาง เกือบ 200 กิโลเมตร
ทั้งนี้กระบวนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว วันพรุ่งนี้ตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง และผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี