สจ.ยิงกลางงานศพ เข้ามอบตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ป้าวัยเกษียณ รับจ้าง นั่งจองโต๊ะร้านเหล้า
ทีมข่าวพีพีทีวี นัดพบกับ นายณรงค์ สัพคง นายบุญทรง สะธรรม นายวรรดี คานพรหม นายชนชน เหรียญจื้อ และนายพรเลิศ จันทร์ศิริเกียรติ ซึ่งเป็นชาวบ้านในตำบลดอนทราย ที่ประกาศตัวสนับสนุนนางวราพร เนียมรักษา ผู้สมัครนายกเทศบาลตำบลดอนทราย ผู้ตาย โดยทั้งหมดยอมออกมาให้ข้อมูลถึงเบื้องหลังของเหตุอุกอาจครั้งนี้ โดยทั้ง 5 คน ยืนยันว่า ไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองท้องถิ่น แต่การก่อเหตุยังอาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาลจากโครงการในพื้นที่ ที่เกี่ยวโยงกับตำแหน่งกำนัน
ประเด็นแรกที่ทั้ง 5 คนอ้างถึง คือ เงินจากโรงไฟฟ้า 6 โรง ซึ่ง ต.ดอนทราย เป็นพื้นที่ที่เข้าหลักเกณฑ์ในการรับเงินกองทุนพัฒนาพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า จำนวน 30 ล้านบาทต่อปี โรงงานหลอมยางรถยนต์ ที่จะจ่ายค่าดูแล ให้กำนัน เดือนละ 30,000 -50,000 บาท เงินค่าจ้างวงดนตรีราชสีสัมพันธ์ คืนละ 45,000 บาท เงินจากตลาดนัดวัดท่ามะขาม 7,000ต่อ สัปดาห์ ทั้งหมดยังไม่นับรวมเงินจากธุรกิจสีเทา ทั้ง บ่อนพนัน และโต๊ะสนุกในพื้นที่
ตามข้อมูลที่ทีมข่าวพีพีทีวีได้รับจากแหล่งข่าวกลุ่มนี้ นายวันชาติ เนียมรักษาได้ส่งลูกสาวชิงตำแหน่งกำนัน กับ นายยิ่งพันธ์ กันเกตุ แต่แพ้ไปในที่สุด ทำให้นายวันชาติ ตัดสินใจ ส่ง นางจิตรลดา เนียมรักษา ภรรยาตัวเอง ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลดอนทราย ซึ่ง ฝั่งนายยิ่งพันธ์ กันเกตุ กำนันตำบลดอนทราย ในฐานะหลานของนางวราพร เนียมรักษา หรือ ครูนงค์ ก็สนับสนุนครูนงค์แข่งกับภรรยานายวันชาติ ซึ่งในทางปฏิบัติกำนันจะต้องทำงานประสานกับนายกเทศมนตรีอย่างใกล้ชิด ซึ่งเกี่ยวโยงกับการบริหารเงินจากโครงการต่างๆ โดยระหว่างหาเสียง มีความพยายามในการเสนอเงิน 1 ล้านบาท ให้ครูนงค์ถอนตัวจากการเป็นคู่แข่งครั้งนี้ โดยแหล่งข่าวทั้ง 5 คนบอกตรงกันว่า เวลานั้นคะแนนของครูนงค์ มีแนวโน้มชนะในสนามนายกเล็กชัดเจน
นอกจากนี้แหล่งข่าวยังได้ให้คลิปกับทีมข่าวพีพีทีวี โดยอ้างว่าเป็นคลิปเสียง ที่นายวันชาติ ไม่พอใจ หลังทราบผลว่า ลูกสาว แพ้เสียงโหวตในการเลือกกำนัน นายวันชาติ จึงโทรมาต่อว่า นายยิ่งพันธ์ ในลักษณะทำนองและพฤติกรรมคล้ายการข่มขู่
ชาวบ้านกลุ่มนี้ ยังให้ข้อมูลโดยอ้างว่า นายวันชาติ ถือเป็นคนอันธพาล และมีพฤติกรรมน่ากลัว คนในหมู่บ้าน หรือแม้แต่พื้นที่อื่นต่างเกรงกลัวอิทธิพลนายวันชาติ เพราะเป็นกำนันมาหลายสมัย รู้จักคนเยอะ ทำให้ไม่แปลกที่หลังเกิดเหตุการณ์นี้ นักข่าวจำนวนมากลงพื้นที่หาข้อมูล แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้าน