ตร.ชี้ เด็กม.6 อุ้มแฟนสาวเผา ทำคนเดียวได้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ความคืบหน้ากรณีหญิงสาววัย19ปี ถูกเผาในพื้นที่อำเภอวังม่วง จังหวัดพิษณุโลก ล่าสุดญาติติดใจ ไม่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุจะลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว เนื่องจากบริเวณที่นำศพไปเผา อยู่ในป่าลึกทางค่อนข้างลำบาก และอยู่ห่างจากถนนใหญ่ถึง7กิโล //วันนี้ตำรวจลงพื้นที่จุดเผานั่งยางอีกครั้งเพื่อลงตรวจสอบและหาหลักฐานในคดีเพิ่มเติม

สารสาสน์ แจ้งจับผู้ปกครอง ผลพวงคดีครูจุ๋ม

แฟนม.6 รับสารภาพบีบคอเผานั่งยางแฟนสาว

จุดเกิดเหตุเผานั่งยางนางสาว จุฬารัตน์ กองแก้ว น้องปอ อายุ 19ปี  อยู่ที่บริเวณสวนยางพารา ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก วันนี้พลตำรวจตรี ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา เดินทางไปตรวจจุดเกิดเหตุ เพื่อให้หาหลักฐานในคดีเพิ่มเติม และตรวจสอบความเป็นไปได้ ว่าผู้ต้องหา อุ้มน้องปอ มาเผาในที่เกิดเหตุคนเดียวได้หรือไม่ หรือมีคนอื่นร่วมมือด้วย

ด้านพันตำรวจเอก ประมุข ปิ่นปลื้มจิตต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา ระบุว่า จากการตรวจพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากถนนลูกรัง ที่คนร้ายนำรถมาจอด ก่อนจะอุ้มร่างของน้องปอ มาเผาอำพรางคดีนั้นมีความเป็นไปได้ ว่าผู้ต้องหาทำเพียงคนเดียว ตามคำให้การ เนื่องจากจุดที่เผาอยู่ห่างจากถนน เพียง 30 ก้าว ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนตัวสูงใหญ่ ขณะที่น้องปอ เป็นคนรูปร่างผอม ทำให้อุ้มได้ง่าย

ทีมข่าวพีพีทีวีลงพื้นที่ไปสำรวจจุดที่นายแม้วนำศพน้องปอไปเผาเพื่ออำพลางคดี ซึ่งอยู่ในป่าพื้นที่ตำบล แก่งโสภา อำเภอวังทอง เมื่อปักหมุดในกูเกิลแมพ พบว่าห่างจากบ้านของนายเเม้วประมาณ 3 กิโลเมตร 

ทีมข่าวจึงทดลองขับรถยนต์เข้าไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อทำการสำรวจเส้นทาง โดยเริ่มจากจุดถนนใหญ่ ขับไปถึงจุดเกิดเหตุทิ้งศะพบระยะทางห่างไกลประมาณ 7กิโลมตร  ระหว่างที่ขับเข้าไปในพื้นที่จะพบชุมชนบ้านเรือนและเมื่อขับไปด้านในจะพบเป็นป่าค่อนข้างเปลี่ยว จากนั้นจะพบถนนลูกรังยาวกว่า3กิโลเมตร จุดนี้รถเก๋งไม่สามารถขับเข้าไปถึงยังจุดทิ้งศพได้  เนื่องจากเส้นทางลึกลับซับซ้อนมาก ทีมข่าวจึงต้องเปลี่ยนวิธีเข้าไปโดยให้คนในพื้นที่นำทาง

เมื่อไปถึงจุดสุดท้ายที่รถยนต์สามารถเข้าถึง คาดว่านายแม้วจอดรถกระบะจุดนี้ และนำร่างน้องปอไปทิ้งศพเผา พบว่ายังต้องเดินเท้าเข้าไปอีกเกือบ15 เมตร ถึงจะเจอจุดที่เป็นแอ่งน้ำลงไป เป็นจุดเผาศพ ซึ่งจากการวิเคราะห์เส้นทาง หากนายแม้วทำการขนย้ายร่างน้องปอมาอำพรางศพคนเดียว ก็ดูค่อนข้างยาก และลำบาก

นาย ใย นามวงษ์ ชาวบ้านในพื้นที่  บอกว่า จุดนี้เรียกว่า “ร้องช้างตาย” สาเหตุที่ชาวบ้านเรียกว่า ร้องช้างตายเนื่องจากเป็นแอ่งน้ำที่ช้างชอบถูกน้ำพลัดมาตายยังจุดนี้อยู่บ่อยๆเพราะเป็นทางผ่านน้ำ ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่นิยมผ่านไปมายังเส้นทางนี้ เนื่องจากอยู่ลึก และทางส่วนใหญ่เป็นโขดหิน โดยส่วนตัวเชื่อว่าผู้ก่อเหตุต้องเป็นคนชำนาญพื้นที่ดี เพราะคนที่จะเข้ามาบริเวณนี้ได้ ต้องเป็นคนในพื้นที่เท่านั้น

ขณะที่วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายแม้วอีกครั้ง พบว่าประตูบ้านปิดสนิท ไม่มีใครอยู่ จึงได้สอบถามจากเพื่อนบ้าน บอกว่า วันนี้ญาติของนายแม้วเดินทางไปที่ศาลตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อไปทำธุระในเรื่องของคดีความ และไม่ทราบว่าจะกลับเข้ามาเมื่อไหร่

ด้านศพของของน้องปอ  ถูกตั้งสวดทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่ บ้านน้ำริน  อ.วังทอง จ.พิษณุโลก  โดยครอบครัวและญาติ รวมถึงชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง มาช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ และนำกระดูกของน้องปอ ที่เหลืออยู่บรรจุใส่ในโลงศพเพื่อทำพิธีตามศาสนา ท่ามกลางความเศร้าโศก

ส่วนทางครอบครัวของนายแม้ว ผู้ต้องหา ยังไม่ได้มาร่วมพิธี หรือติดต่อมาแต่อย่างใด และยังไม่มีการพูดคุยกัน โดยจะตั้งสวดพระอภิธรรมศพ 2 คืน แล้วนำกระดูกของน้องปอไปทำพิธีฌาปนกิจศพที่วัดป่าอารัญญาวาส

แม่ของน้องปอ นางฉวี กุนนะ บอกกับทีมข่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่านายแม้ว ไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว เพราะเส้นทางที่นำศพไปทิ้ง เป็นเส้นทางลึกลับซับซ้อนมาก ประกอบกับลูกสาวเป็นคนรูปร่างใหญ่ น้ำหนักราว 60 กิโลกรัม และสูงถึง 170 เซนติเมตร  ซึ่งมีขนาดรูปร่างเท่าๆกันกับตัวนายแม้วเอง หมายความว่าถ้าหากนายแม้วจะอุ้มน้องปอลงไปเอง ก็คงจะทำได้ยาก เพราะพื้นที่บริเวณนั้นส่วนใหญ่เป็นโขดหิน รวมถึงวันที่ตำรวจพาตัวนายแม้วไปชี้จุด ตนเองไม่พบว่ามีร่องรอยการลากศพลงไป

ด้านพันตำรวจเอก ประมุข ปิ่นปลื้มจิตต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแก่งโสภา ระบุว่า จากการตรวจพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากถนนลูกรัง ที่คนร้ายนำรถมาจอด ก่อนจะอุ้มร่างของน้องปอ มาเผาอำพรางคดีนั้นมีความเป็นไปได้ ว่าผู้ต้องหาทำเพียงคนเดียว ตามคำให้การ เนื่องจากจุดที่เผาอยู่ห่างจากถนน เพียง 30 ก้าว ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนตัวสูงใหญ่ ขณะที่น้องปอ เป็นคนรูปร่างผอม ทำให้อุ้มได้ง่าย

ทีมข่าวพีพีทีวีลงพื้นที่ไปสำรวจจุดที่นายแม้วนำศพน้องปอไปเผาเพื่ออำพลางคดี ซึ่งอยู่ในป่าพื้นที่ตำบล แก่งโสภา อำเภอวังทอง เมื่อปักหมุดในกูเกิลแมพ พบว่าห่างจากบ้านของนายเเม้วประมาณ 3 กิโลเมตร 

ทีมข่าวจึงทดลองขับรถยนต์เข้าไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อทำการสำรวจเส้นทาง โดยเริ่มจากจุดถนนใหญ่ ขับไปถึงจุดเกิดเหตุทิ้งศะพบระยะทางห่างไกลประมาณ 7กิโลมตร  ระหว่างที่ขับเข้าไปในพื้นที่จะพบชุมชนบ้านเรือน และเมื่อขับไปด้านในจะพบเป็นป่าค่อนข้างเปลี่ยว จากนั้นจะพบถนนลูกรังยาวกว่า3กิโลเมตร  จุดนี้รถเก๋งไม่สามารถขับเข้าไปถึงยังจุดทิ้งศพได้  เนื่องจากเส้นทางลึกลับซับซ้อนมาก ทีมข่าวจึงต้องเปลี่ยนวิธีเข้าไปโดยให้คนในพื้นที่นำทาง

เมื่อไปถึงจุดสุดท้ายที่รถยนต์สามารถเข้าถึง คาดว่านายแม้วจอดรถกระบะจุดนี้ และนำร่างน้องปอไปทิ้งศพเผา พบว่ายังต้องเดินเท้าเข้าไปอีกเกือบ15 เมตร ถึงจะเจอจุดที่เป็นแอ่งน้ำลงไป เป็นจุดเผาศพ ซึ่งจากการวิเคราะห์เส้นทาง หากนายแม้วทำการขนย้ายร่างน้องปอมาอำพรางศพคนเดียว ก็ดูค่อนข้างยาก และลำบาก

นาย ใย นามวงษ์ ชาวบ้านในพื้นที่  บอกว่า จุดนี้เรียกว่า “ร้องช้างตาย” สาเหตุที่ชาวบ้านเรียกว่า ร้องช้างตายเนื่องจากเป็นแอ่งน้ำที่ช้างชอบถูกน้ำพลัดมาตายยังจุดนี้อยู่บ่อยๆเพราะเป็นทางผ่านน้ำ ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่นิยมผ่านไปมายังเส้นทางนี้ เนื่องจากอยู่ลึก และทางส่วนใหญ่เป็นโขดหิน โดยส่วนตัวเชื่อว่าผู้ก่อเหตุต้องเป็นคนชำนาญพื้นที่ดี เพราะคนที่จะเข้ามาบริเวณนี้ได้ ต้องเป็นคนในพื้นที่เท่านั้น

ขณะที่วันนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายแม้วอีกครั้ง พบว่าประตูบ้านปิดสนิท ไม่มีใครอยู่ จึงได้สอบถามจากเพื่อนบ้าน บอกว่า วันนี้ญาติของนายแม้วเดินทางไปที่ศาลตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อไปทำธุระในเรื่องของคดีความ และไม่ทราบว่าจะกลับเข้ามาเมื่อไหร่

ด้านศพของของน้องปอ  ถูกตั้งสวดทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่ บ้านน้ำริน  อ.วังทอง จ.พิษณุโลก  โดยครอบครัวและญาติ รวมถึงชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง มาช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ และนำกระดูกของน้องปอ ที่เหลืออยู่บรรจุใส่ในโลงศพเพื่อทำพิธีตามศาสนา ท่ามกลางความเศร้าโศก

ส่วนทางครอบครัวของนายแม้ว ผู้ต้องหา ยังไม่ได้มาร่วมพิธี หรือติดต่อมาแต่อย่างใด และยังไม่มีการพูดคุยกัน โดยจะตั้งสวดพระอภิธรรมศพ 2 คืน แล้วนำกระดูกของน้องปอไปทำพิธีฌาปนกิจศพที่วัดป่าอารัญญาวาส

แม่ของน้องปอ นางฉวี กุนนะ บอกกับทีมข่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่านายแม้ว ไม่ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว เพราะเส้นทางที่นำศพไปทิ้งเป็นเส้นทางลึกลับซับซ้อนมาก ประกอบกับลูกสาวเป็นคนรูปร่างใหญ่ น้ำหนักราว 60 กิโลกรัม และสูงถึง 170 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดรูปร่างเท่าๆกันกับตัวนายแม้วเอง หมายความว่าถ้าหากนายแม้วจะอุ้มน้องปอลงไปเอง ก็คงจะทำได้ยาก เพราะพื้นที่บริเวณนั้นส่วนใหญ่เป็นโขดหิน รวมถึงวันที่ตำรวจพาตัวนายแม้วไปชี้จุด ตนเองไม่พบว่ามีร่องรอยการลากศพลงไป

นางดา ท้วมดำ ป้าของน้องปอ บอกว่า ตนเลี้ยงน้องปอมาตั้งแต่เด็ก รู้จักนิสัยของน้องพอดีว่าเป็นคนขยัน น้องปอเรียนจบชั้น ม.6 อยากเรียนต่อ แต่เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน จึงต้องตัดสินใจหยุดเรียนไว้ก่อน จนได้พบรักกับแฟนหนุ่มและมีการหมั้นหมายกัน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าแฟนหนุ่มจะมีจิตใจโหดเหี้ยมลงมือฆ่าคนรักของตัวเองได้ คนในครอบครัวก็อยากให้ผู้ต้องหามากราบขอขมาศพ เพื่อดวงวิญญาณของน้องปอจะได้ไปสู่สรวงสวรรค์ และอโหสิกรรมต่อกันในชาตินี้ เพราะยังไงทั้งคู่ก็เคยรักกันมาก

ขณะที่พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้นำตัวนายแม้ว ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าเผาอำพรางไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพิษณุโลก ก่อนถูกนำตัวเข้าไปคุมขังในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก

 

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ