ค้นบ้านแม่ค้าหวย หาหลักฐานคลายปมสลากหาย
หญิงประชดติดป้ายใครพาเจอนายกฯ ให้ 5 หมื่น
เอกสารการโอนเงิน และภาพถ่ายเป็นหลักฐานที่ชายชาวญี่ปุ่น 3 คน นำมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน โดยอ้างว่าถูก นางสาววรินทร ทรัพย์รชา หรือ หนึ่ง อายุ 44 ปี หลอกให้ร่วมลงทุน มีผู้เสียหายหลายสิบคน บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องใช้ชีวิตยากลำบาก
นายฮิโรอาคิ โอคาเบะ หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่าเดินทางมาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่นานกว่า 10 ปีแล้ว ต้นปี 2562 “นางสาววรินทร” ซึ่งมีแฟนเป็นชาวญี่ปุ่น เปิดบริษัทชื่อ L.C.M.T หรือ โลโคโมชั่นทัวร์ ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ มาชักชวนให้ร่วมลงทุนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อ้างว่า บริษัทได้รับอนุมติให้จัดงานยี่เป็ง ของอำเภอดอยสะเก็ด ระหว่างวันที่ 11 - 12 พฤศจิกายน 2562 โดยจะให้ผลตอบแทนร้อยละ 30 ซึ่ง “นายฮิโรอาคิ” เห็นว่าบริษัทดังกล่าวมีที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง และ “นางสาววรินทร” ก็ถือสัญชาติญี่ปุ่นเป็นสัญชาติที่สอง จึงเชื่อใจ ร่วมลงทุนไป 1 ล้านบาท
ระหว่างรอจัดงานยี่เป็ง “นางสาววรินทร” ก็ชวนให้ลงทุนในธุรกิจต่อวีซ่าให้กับชาวญี่ปุ่น โดยอ้างว่า มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ที่มาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ต่อวีซ่ารายปีไม่ได้ เพราะมีเงินในบัญชีต่ำกว่า 8 แสนบาท จึงชวนให้ “นายฮิโรอาคิ” โอนเงินเข้าบัญชีชาวญี่ปุ่นที่ต้องการต่อวีซ่ารายปีเหล่านี้ โดยบอกว่าจะได้ค่าตอบแทนร้อยละ 5 ถึง 10 ของเงินที่ลงทุนไป
โดยระหว่างที่ลงทุน ในช่วงแรกได้รับเงินผลตอบแทนกลับมา แต่ช่วงหลังก็เงียบหายไป เมื่อทวงถาม ทาง “นางสาววรินทร” ก็อ้างว่าเงินอยู่ในระยะเวลาการันตี ยังไม่สามารถถอนออกมาให้ได้
กระทั่งเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา “นางสาววรินทร” ขาดการติดต่อ จึงไปหาที่บริษัท ก็พบว่าปิดกิจการไปแล้ว เมื่อไปตามหาที่บ้านพักพบย้ายออกแล้ว จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกและเมื่อสอบถามกลุ่มเพื่อนชาวญี่ปุ่นก็พบว่าคนถูกหลอกลักษณะเดียวกันอีกหลายคน และทุกคนบอกตรงกันว่า “นางวรินทร” ห้ามไม่ให้เล่าเรื่องลงทุนให้ใครฟัง ตลอดระยะเวลา “นายฮิโรอาคิ” หลงเชื่อทยอยโอนเงินให้ทั้งหมด 17 ครั้ง รวมเป็นเงิน 9 ล้าน 4 แสนบาท แต่ได้คืนมาเพียง 1 ล้าน 4 แสนบาท
นอกจาก “นายฮิโรอาคิ” แล้ว ยังมีชายชาวญี่ปุ่นอีกหลายคนที่ตกเป็นเหยื่อ อย่าง นายคิโยโนริ ฮิราโอกะ อายุ 69 ปี สูญเสียเงินไปกว่า 8 แสนบาท จนแทบไม่มีเงินเหลือติดตัว และตอนนี้เขาป่วยเป็นโรคมะเร็ง ไม่มีเงินจะรักษาตัว ทำให้รู้สึกเครียดมาก เบื้องต้นคาดว่ามี ชาวญี่ปุ่นและชาวสิงคโปร์ ที่หลงเชื่อนำเงินมาลงทุนมากกว่า 20 คน รวมเป็นเงินเกือบ 30 ล้านบาท
ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้รวมตัวกันแจ้งความไว้ที่สถานีตรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ เมื่อปลายปี 2563 ก่อนที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่จะออกหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจับตัว “นางสาววรินทร” ได้ จึงอยากขอความช่วยเหลือกับสื่อมวลชน หากใครมีเบาะแสช่วยแจ้งตำรวจเข้าจับกุม จะมีเงินรางวัลตอบแทนจำนวนหนึ่ง
