ศาลให้ประกัน “หลงจู๊สมชาย” เงินสด 2 แสนบาท “สันธนะ” ซัดละครโรงใหญ่
ด่วน!! บุกจับ "หลงจู๊สมชาย" อีกรอบ บงการฆ่า "ลูกชาย" เจอหมายจับด้วย
ตำรวจกองปราบปราม ได้นำตัว นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ "หลงจู๊สมชาย" ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีจ้างวานฆ่าวินจักรยานยนต์รับจ้าง คดีร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน พร้อมด้วยนายธนา จุติกิติ์เดชา ลูกชาย ในความผิดฐานฟอกเงิน และพวกเครือข่ายรวม 8 คน ไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังผัดแรกพร้อมคัดค้านการประกันตัว หลังถูกจับกุมในปฎิบัติ“ยุทธการหนุมานดับบูรพา” เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา โดยควบคุมตัวไว้สอบปากคำครบกำหนด 48 ชั่วโมงแล้ว แม้ว่านายสมชายและพวกทุกคน ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในชั้นการสอบสวนก็ตาม
ด้านพันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวนายสมชายและพวก เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงและเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี นอกจากนี้พนักงานสอบสวน ยังรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในคดีจ้างวานฆ่ายังไม่แล้วเสร็จ จึงเกรงว่าหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวออกไป อาจจะไปข่มขู่หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ แต่ก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดได้
ส่วนประเด็นคลิปเสียงสนทนา ที่อ้างว่านายสมชายพูดคุยกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนวนคดีนี้ สำหรับการดำเนินคดีกับเครือข่ายของนายสมชาย ทางตำรวจได้ขอหมายจับ 35 หมาย ผู้ต้องหาทั้งหมด 22 คน จับได้แล้ว 8 คน โดยที่เหลือยังอยู่ระหว่างขยายผลติดตามตัว ส่วนทรัพย์สินที่จะต้องยึดอายัดมีทั้งหมด 665 รายการ มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. อายัดทรัพย์ต่อไป
ต่อมา นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อสังเกตการณ์กรณีฝากขังหลงจู๊สมชาย พร้อมเปิดเผยว่า ต้องการมาสังเกตการณ์ว่าศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่. โดยเฉพาะหลงจู๊สมชายกับลูก ซึ่งหากคดีนี้ศาลอนุญาตให้ประกันตัว ตนเองก็จะยื่นขอประกันตัว เสี่ยโป้ หรือ นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์บ้าง
แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีเพียงญาติของผู้ต้องหาหญิงในคดีฟอกเงินเท่านั้นที่มายื่นขอประกันตัว / ขณะที่ผู้ต้องหาคนอื่นๆอีก 7 คน ไร้ญาติยื่นประกันตัว ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าหลงจู๊สมชายน่าจะรู้ตัวว่ายื่นไปก็ไม่ได้ประกัน
สำหรับในส่วนกรณีคลิปเสียง การเจรจาต่อรองผลประโยชน์ ระหว่างหลงจู๊สมชาย กับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นายสันธนะ ระบุว่า ที่ผ่านมาตนเองได้เคยพูดไปแล้วแต่ก็ไม่มีใครเชื่อ และตัวเลขที่ต่อรองผลประโยชน์กันก็ระดับ 7หลัก 8หลัก จึงไม่แปลกหากหลงจู๊จะบันทึกเสียงเอาไว้เป็นหลักฐาน ส่วนกรณีที่หลายคนสงสัยว่าเหตุใดตำรวจนครบาล จึงมีส่วนเรียกรับผลประโยชน์จากหลงจู๊สมชายได้นั้น
นายสันธนะ อธิบายว่า นายตำรวจคนนี้เคยไปช่วยราชการในพื้นที่ภูธรภาค2 และทำหน้าที่เป็นหน้าเสื่อให้กับผู้บังคับบัญชาอีกทอดหนึ่ง จึงเป็นคนกลางประสานงานระหว่างตำรวจกับหลงจู๊ หลังจากนั้นก็เลยทำหน้าที่เป็นตัวกลางมาโดยตลอด
นอกจากนี้ นายสันธนะ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการเตรียมผลักดันเจ้าพ่อคนใหม่ขึ้นมาคุมบ่อนพนันแทนหลงจู๊ว่า ก็มีความเป็นไปได้ เนื่องจากเป็นที่รู้กันดีว่าพัทยาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจไม่แตกต่างจากพื้นที่ระยอง และมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ เมื่อคนเก่าไป คนใหม่ก็มาแทน โดยเฉพาะในกรณีของหลงจู๊สมชาย เชื่อว่าเป็นไปได้ยากที่จะกลับมาคืนสู่วงการ เพราะได้สูญเสียเครดิตและความเชื่อมั่นไปแล้ว ดังนั้นหากคลื่นลูกใหม่ที่รอคอยเวลามายาวนานจะขึ้นมาผงาดแทนที่หลงจู๊ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
