ร้องก.ดีอีเอส เอาผิดแอปพลิเคชันเงินกู้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กลุ่มผู้เสียหาย แอนตี้หมวกกันน็อคออนไลน์ ยื่นหนังสือรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ดำเนินการช่วยเหลือหลังทำการกู้เงินผ่านแอปพลิเคชันผิดกฎหมายและนำมาสู่การถูกข่มขู่ คุกคาม ประจาน

“ดีอีเอส” เตือน ใช้แอปฯ “Clubhouse” อย่าละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น ระวังผิดกฎหมาย

“พุทธิพงษ์” ยัน แอปฯ“หมอชนะ” ปิดข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้เสียหายที่รวมตัวกัน มาในนาม กลุ่มแอนตี้หมวกกันน็อคออนไลน์ ได้รวบรวมหลักฐานทั้ง ภาพแอปพลิเคชัน และภาพที่ไม่เหมาะสมที่ถูกส่งออกไปหลังโทรศัพท์ติดตั้งมัลแวร์ เพื่อมายื่นขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ตรวจสอบที่มาของแอปพลิเคชัน ที่มีให้ดาวน์โหลดในโทรศัพท์มือถือ  ซึ่งปัจจุบันมีผู้เสียหายมากถึง 2 พันคน และมีผู้ที่ประสงค์ดำเนินคดีแล้ว 420 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 20 ล้าน

หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงที่โควิด-19 ระบาด ทำให้ตัวเองไม่มีเงิน และเมื่อไปขอกู้กับสถาบันทางการเงินก็ไม่ผ่านเพราะขาดเอกสารบางอย่าง ทำให้ต้องหาช่องทางเงินกู้จนมาพบแอปพลิเคชัน ในออนไลน์ ซึ่งระบุว่า ปล่อยเงินกู้ แต่เมื่อทำการกู้จะไม่ได้เงินเต็มจำนวน เช่นกู้ 5 พันบาท จะได้จริง 3000 บาท และต้องชำระเงินทุก 7 วัน เมื่อไม่ชำระจะต้องจ่ายดอกเบี้ย ซึ่งก่อนที่จะกดแอพลิเคชั่น ไม่ได้ระบุดอกเบี้ยไว้ชัดเจน เมื่อทราบภายหลังว่า ดอกเบี้ยสูงถึง 35-39% ต่อ 7 วัน ก็ ไม่สามารถยกเลิกหรือถอนการสมัครได้แล้ว

ผู้เสียหายระบุว่า แอปพลิเคชัน ยังให้ยืนยันตัวตนด้วยการให้ถ่ายรูปบัตรประชาชน หน้าหลังไปด้วย

จากนั้น จะมีการส่งลิงค์ข่าว หรือ ลิงค์เกี่ยวกับข้อมูล เข้ามาและเมื่อกดเข้าไปจะถูกโจรกรรมข้อมูล ในหลายรูปแบบ ทั้งนำภาพที่อยู่ในคลังภาพไปตัดต่อเป็นภาพโป๊ เปลือย ส่งไปให้ เพื่อนๆ ในบัญชีโทรศัพท์ หรือ สร้างข้อความเท็จ โดยอ้างว่า เพื่อนในบัญชีถูกนำชื่อไปค้ำประกันกู้เงิน และต้องชดใช้แทน ส่วนใหญ่จะยอมชดใช้เพราะเป็นเงินจำนวนไม่มากหลักพันบาท

จากข้อมูลบางคนถูกโทรศัพท์ข่มขู่และดูถูกเหยียดหยามหากไม่นำเงินมาใช้คืนตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยผู้เสียหายพบว่า ส่วนใหญ่คนที่โทรศัพท์มาจะพูดไม่ค่อยชัดคล้ายเป็นคนต่างชาติ

ด้านนายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัล ที่มารับเรื่องราวร้องทุกข์ ระบุว่า จะรับเรื่องไปตรวจสอบให้ แต่เบื้องต้นยอมรับว่า ไม่สามารถปิดแอปพลิเคชันได้ เนื่องจากถูกนำเข้ามาไว้ในเพลย์สโตรผ่านบริษัทกูลเกิล ซึ่งจะประสานพูดคุยให้ลบแอพพลิเคชันเหล่านี้ ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว อาจจะต้องขอความร่วมมือจากกูลเกิล ในการตรวจสอบแอพลิเคชันก่อนลงในระบบ

เบื้องต้นได้ฝากไปยังประชาชนว่า ให้ช่วยกันตรวจสอบข้อมูลและอย่ายืนยันข้อมูลตนเองลงในระบบหรือแอปพลิเคชันแปลกปลอม เพราะจะเสี่ยงต่อการโจรกรรมข้อมูลและนำไปสู่การก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ

 

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ