ช็อกวงการ "มีล่า" แฉถูกน้องชายทำร้ายปางตาย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เป็นประเด็นร้อนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อ มีล่า จามิล่า พันธ์พินิจ อดีตนักร้องสาวสังกัด กามิกาเซ่ เจ้าของเพลง ปากดี ขี้เหงา เอาแต่ใจออกมาเผยเรื่องราว 2 ปีก่อน ที่น้องชายแท้ๆของเธอที่ติดยาเสพติด ทำร้ายร่างกายอาการสาหัส ซึ่งเธอเปิดใจว่าเป็นเหตุกาณ์สุดเลวร้ายที่สุดในชีวิต ขณะที่ตลอดทั้งวัน ทั้งมีล่าและครอบครัว เงียบไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม มีเพียง คนในโลกออนไลน์ที่ ขุดภาพเก่า แม่ของมีล่า ไปงานกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กสตรีและบุคคลในครอบครัว ในช่วงเดียวกับที่ลูกสาวถูกลูกชายทำร้าย

แนะวิธีช่วยเหลือ เพื่อนร่วมคอนโด "กักตัว"

"ปิด 3 ทุ่ม ตั้งแต่ 15 เม.ย." ทุกศูนย์การค้า-ห้างสรรพสินค้า

กลายเป็นประเด็นช็อกวงการบันเทิง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีล่า จามิล่า พันธ์พินิจ อดีตนักร้องสาว สังกัด กามิกาเซ่ เจ้าของเพลง ปากดี ขี้เหงา เอาแต่ใจ เปิดเผยผ่านข้อความในไอจีสตอรี่ว่า เธอถูกน้องชายแท้ๆทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุการณ์เกิดเมื่อ 2 มิ.ย. 2562  เธอถูกน้องชายวัย 19 ปี บุกเข้ามาในห้องนอนขณะพักผ่อน แล้วใช้มีดจากครัวฟันหัวเธอ เธอพยายามลุกขึ้นต่อสู้  ก่อนที่พี่สาวจะเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน แต่ก็ได้รับบาดเจ็บหลายจุดไปแล้ว นอกจากนี้ มีล่า ยังได้โพสต์ภาพ สภาพร่างกายของตัวเองที่มีรอยแผลฉกรรจ์ ที่ศีรษะ ตามตัว แขน และ ที่เบ้าตา ข้างซ้ายเกือบบอด หูซ้ายก็ไม่ได้ยิน รวมถึงแผลลึกไปถึงชั้นกระดูก

มีล่า บอกว่า เธอเข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาล 8 วัน โดยที่แม่และเจนนี่ นักร้องสาวเดอะ สตาร์ ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ แจ้งว่า มีล่าเกิดอุบัติเหตุ หลังจากนั้น มีล่าย้ายไปอยู่คอนโดกับแฟนหนุ่ม โดยไม่เคยกลับไปบ้านของเธออีกเลย

ตามข้อมูลของมีล่า เธอบอกว่า ที่ผ่านมาครอบครัวโดยเฉพาะ แม่และพี่สาว ขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ไม่ให้แจ้งความ และไม่ให้บอกใคร เพราะ กลัวน้องชายจะถูกดำเนินคดี และ ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว  ตอนนั้น แม่ของมีล่า สัญญาว่าจะพา น้องชายไปบำบัด แต่สุดท้าย พาไปรักษาตัวที่รพ.ศรีธัญญาเพียง 2 เดือน ก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ

 เธอเล่าว่า เธอรู้สึกกังวล เพราะ หลังเกิดเหตุ มีล่ามีอาการป่วย PTSD  หวาดระแวง ไม่สามารถกลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเองได้  ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจออกมาแฉเรื่องนี้ มีล่า บอกว่า เพราะอึดอัดใจ รวมถึงที่ผ่านมาครอบครัวปกปิดทุกอย่างที่เกี่ยวกับน้องชาย ทำให้เธอใช้ชีวิตด้วยคามหวาดระแวง

ขณะที่ล่าสุด มีล่ายังไม่ได้เคลื่อนไหวเพิ่มเติม มีเพียงการแชร์โพสต์ของเพื่อนๆที่ให้กำลังใจเธอผ่าน ไอจีสตอรี่ ส่วน เจนนี่พี่สาวของมีล่า ทีมข่าวโทรศัพท์ไปหา พบว่า ผู้จัดการส่วนตัวรับสาย แจ้งว่าตอนนี้ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์ ขอให้ครอบครัวได้เคลียร์ปัญหาภายในกันก่อน

นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ให้ข้อมูลว่า หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงถือเป็นเรื่องร้ายแรง สามารถเอาผิดตามกฎหมายอาญาได้ โดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งกรณีนี้เข้าข่ายทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีโทษจำคุก 2-10 ปี ปรับตั้งแต่ 40,000 – 200,000 บาท ซึ่งมีอายุความ 15 ปี ยังสามารถฟ้องร้องกันได้

ส่วนประเด็นที่มีล่าบอกว่าตอนนั้นน้องชายติดยาเสพติดจนมีอาการหลอนนั้น ไม่สามารถอ้างได้ ต้องให้แพทย์ประเมินก่อน และแม้ว่าเหตุการณ์นี้จะผ่านมานานกว่า 2 ปีแล้ว อาจทำให้มีความน่าเชื่อถือน้อยลง แต่หากเรื่องทั้งไม่ใช่ความจริง คดีจะพลิกมาทางฝั่งมีล่า เพราะ จะเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และหมิ่นประมาท

 นายเดชา ตั้งข้อสังเกตว่า  ตอนที่ไปรักษาตัว เมื่อแพทย์ประเมินอาการแล้วพบว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ ทำไมไม่มีการแจ้งความตามขั้นตอน รวมถึงมองว่า หากแจ้งความแต่แรกจะทำให้มีความน่าเชื่อถือมากกว่าพูดตอนนี้

ส่วนกลุ่มที่เคลื่อนไหวต่อเนื่อง คือ ชาวเน็ต ล่าสุดพบว่ามีการไปขุดภาพ แม่ของมีล่า ไปร่วมงานกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กสตรีและบุคคลในครอบครัว และงานสังคมต่างๆ จนถูกวิจารณ์ว่า ลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่แม่และพี่สาวขอไม่ให้เอาเรื่องน้องชายคนก่อเหตุ มีการวิจารณ์ว่า ไม่เป็นธรรมกับมีล่า ขณะเดียวกันก็มีการวิจารณ์ว่า ควรรอฝั่งแม่และพี่สาวออกมาพูดก่อน

นอกจากนี้ยังมีการขุดภาพ มีล่า ติดผ้าก๊อซพันแผลตามร่างกาย พร้อมเชื่อมโยงตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นผลจากที่ถูกน้องชายทำร้าย มีชาวเน็ตส่วนมากแห่ให้กำลังใจ ขณะที่บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมแผลฉกรรจ์หายเร็วมาก เพราะ หลังจากนั้น มิล่าโพสต์ภาพต่างๆ พบว่า ผิวเนียนสวยไม่เหลือร่องรอยใดๆ

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

ขณะนี้ มีรายการกำลังถ่ายทอดสด คุณสนใจหรือไม่?

POP NEWS

POP NEWS

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ