โควิดรอบนี้ดุ! ตายรายวัน สงขลาดับรายแรก คลัสเตอร์เลี้ยงรุ่น รพ.หาดใหญ่ป่วนกักตัว
หนุ่มหัวร้อน ต่อยพนักงานร้านฯ หลังไม่พอใจ ถูกเตือนให้ใส่แมสก์
ภาพของพนักงาน ร้านสะดวกซื้อ 7-11 แห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ถูกโพสต์ไว้ในโลกออนไลน์ พร้อมข้อความระบุว่า พนักงานคนนี้ ถูกทำร้ายที่จมูกจนเลือดกำเดาไหล เพราะ ไปเตือนลูกค้าที่จะเข้ามาซื้อของในร้านในสวมหน้ากากอนามัย แต่ลูกค้าไม่พอใจจึงชกจนจมูกแตก เลือดกำเดาไหล
ทีมข่าวพีพีทีวีประสานขอสัมภาษณ์พนักงานคนดังกล่าว เขา เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ( 21 เม.ย.) เวลาประมาณ 21.00 น. ระหว่างกำลังจัดสินค้า มีลูกค้าเป็นผู้ชาย เข้ามาในร้าน ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย เขาจึงเตือนว่า “กรุณาใส่แมสก์ด้วยครับ มีมารยาทนิดหนึ่ง”
แต่ ปรากฎว่าชายคนนี้ไม่พอใจ เดินออกจากไป ถัดจากนั้น 5 นาทีต่อมา ชายคนเดิมเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง พร้อมพูดว่า “มีปัญหาอะไร” และ ท้าให้ไปเคลียร์กันข้างนอก
แต่พนักงานบอกว่า “ผมมาทำงาน ไม่ได้มามีเรื่อง” จากนั้นจึงเดินเข้าห้องพักสินค้าไป
จนกระทั่งเวลา 22.30 น. เป็นเวลาเลิกงาน พนักงานคนเดิม เดินเอาขยะไปทิ้งที่หน้าร้าน พบว่า มีคนขี่รถจักรยานยนต์ มาประกบด้านข้าง เมื่อเหลือบไปดู พบว่าเป็นชายคนเดิมที่มีปากเสียงกัน พร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน ปรี่เข้ามาทำร้าย ชกเข้าที่จมูก ขณะนั้นเพื่อนใน 7-11 จะเข้ามาห้าม ถูกทำร้ายร่างกายไปด้วย
จากนั้น ชายคู่กรณี พร้อมเพื่อน ก็ขี่รถจักรยานยนต์หนีไป พร้อมบอกว่า “อย่าให้เจออีกนะ”
หลังเกิดเหตุ พนักงานร้านสะดวกซื้อ เข้าแจ้งความที่ สภ.ราชสาส์น ปรากฎว่า ตำรวจเช็กชื่อคู่กรณีและแจ้งให้พนักงานร้านสะดวกซื้อทราบ เมื่อฟังชื่อ เขาบอกว่ารู้สึก คุ้นหู และเมื่อตรวจสอบกับเพื่อน จึงทราบว่า คู่กรณี เป็นเพื่อนสมัยม.ต้น
จากนั้นจึงรู้ว่าที่ตัวเองถูกทำร้าย ไม่ได้เกี่ยวกับการใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่ แต่เป็นเพราะ เขาไปยุ่งเกี่ยวกับแฟนเก่าของคู่กรณี โดยรู้จักกันทางเฟซบุ๊ก ซึ่งนอกจากจะจำไม่ได้ว่า ชายที่ชกเขาเป็นเพื่อนเก่า ยังจำไม่ได้ว่าเป็นแฟนเก่าของผู้หญิงที่ตัวเองคุยด้วย
พนักงานคนนี้ให้ข้อมูลว่า คู่กรณีของเขาเป็นลูกชายของตำรวจในพื้นที่ อ้างว่าเป็นคนมีอิทธิพลในกลุ่มวัยรุ่น และ มักมีเรื่องชกต่อยเป็นประจำ ยอมรับว่ากังวลเมื่อมีปัญหากับ คู่กรณีคนนี้
ด้านพ.ต.อ. สนั่น คงรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรราชสาส์น เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นเรื่องวัยรุ่นกระทบกระทั่งกันเรื่องชู้สาว ไม่ใช่ประเด็นปัญหาเรื่องการไม่สวมหน้ากากอนามัยตามที่โลกออนไลน์วิจารณ์อยู่ต่อนนี้ ส่วนเรื่องผู้มีอิทธิพล ส่วนเรื่องที่มีการระบุว่า คู่กรณีเป็นลูกตำรวจ ผู้มีอิทธิพล ผู้กำกับฯ ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่มีเรื่องผู้มีอิทธิพล
สำหรับความคืบหน้าของคดี ขณะนี้เพิ่งสอบปากคำผู้เสียหายเสร็จสิ้น อยู่ระหว่างการเรียกคู่กรณีมาสอบสวน หากพบว่ามีเจตนาทำร้ายร่างกายจนอาการสาหัส จะต้องส่งเรื่องไปให้ศาลพิจารณาตามกระบวนการต่อไป