ครบ 1 ปี "คดีน้องชมพู่" มีคนพาไปทำให้ถึงแก่ความตาย อัปเดตคดี เผยหลักฐานสำคัญ หรือจะมีข่าวดี!


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ครบ 1 ปี คดีน้องชมพู่ 11 พ.ค. อัปเดตความคืบหน้าคดี สืบสวน สอบสวนเดินหน้า คืบหน้า ลุ้น ผบ.ตร. เผยข่าวดี

จากกรณีการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา ของ"น้องชมพู่" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชาวบ้านกกกอก ตำบลกกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร หลังจาก ด.ญ.หายตัวจากบ้านพัก เมื่อ 11 พ.ค.63 วันนี้จวนครบ 1 ปีเต็ม การเสียชีวิตของหนูน้อย ยังเป็นปริศนา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุชัดว่า การพบศพของน้องชมพู่บนภูเหล็กไฟ สูง ชัน และไกลจากบ้านพัก ประกอบพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า มีผู้นำทำให้น้องชมพู่ เสียชีวิตอาจโดยทางตรง หรือทางอ้อม 

เปิดคลิป สำนวน 918 หน้า สรุปคดี "น้องชมพู่" 8 ข้อไขคดี ทิ้งปมสำคัญ เจอคนร้ายแล้ว!!

ผบ.ตร.ย้ำไม่เลิก ลั่นจับให้ได้ คนฆ่า "น้องชมพู่" เผยมีข้อมูลใหม่ แพลมตัวละครใหม่!

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4(ผบช.ภ.4) รับผิดชอบพื้นที่ จ.มุกดาหาร เผยว่า คดีนี้ยังเดินหน้าสืบสวน และสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ไม่ไม่ยุติการสอบสวนและมีความคืบหน้า

ผบช.ภ.4 ย้ำว่า การสืบสวนและสอบสวนเดินหน้าตลอด และมีข้อมูล มีความคืบหน้า แต่พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.จะเป็นผู้ให้คำตอบเรื่องนี้

เมื่อถามว่าคดีนี้จะครบ 1 ปี ในอีก 2 วัน จะมีข่าวนี้หรือไม่ พล.ต.ท.ยรรยง กล่าวว่า ให้ ผบ.ตร.เป็นผู้ตอบดีกว่า แต่ยืนยันว่าคดีมีความคืบหน้า

ขณะที่ย้อนคดีน้องชมพู่ คดีการเสียชีวิตของเด็กหญิงชาวบ้านในจ.มุกดาหาร ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ทางสังคมมากมาย

11 พ.ค. 2563 น้องชมพู่ หายไปจากบ้านในช่วงสาย ครอบครัวประกาศตามหาโดยใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย หลายฝ่ายช่วยกันตามหา สื่อมวลชนให้ความสนใจเริ่มเสนอข่าว ตำรวจสภ.กกตูม จ.มุกดาหาร ออกตามหา ครอบครัวภาวนาขอให้พบหนูน้อยชมพู่ อย่างปลอดภัย

14 พ.ค.63 ผ่านไป 3 คืนหลังการหายตัวของเด็กหญิง ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง ยายวัย 70 ขึ้นไปเก็บเห็ด และพบรองเท้าเด็ก ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ ก่อนพบศพน้องชมพู่ ห่างจากจุดพบรองเท้าเล็กน้อย สภาพเปลือย อยู่บนเหล็กไฟ ระยะทางห่างจากบ้านพักมากกว่า 1 กิโลเมตร  

สำนักงานตำรวจแห่งชาติระดมชุดสืบสวนสอบสวน ฝีมือดีลงพื้นที่ปักหลักหาข่าว แต่ผ่านไปหลายเดือน คดีก็ยังไร้วี่แววจับคนร้าย หรือคำยืนยันได้ว่า น้องชมพู่ขึ้นไปเสียชีวิตบนเขาสูงได้อย่างไร

คนในครอบครัว คนใกล้ชิด คนรอบตัว คนบ้านใกล้ ถูกโยงใยเป็นผู้ต้องสงสัยสอบพยาน สอบปากคำผู้ต้องสงสัยจำนวนมาก เกิดประเด็นดราม่า และปรากฏการณ์ ลุงพล ป้าแต๋น ญาติใกล้ชิด ที่ถูกเพ่งเล็งเป็นผูู้ต้องสงสัยในคดี เกิดปรากฎการณ์สื่อสร้างกระแส เป็น "ลุงพลฟีเวอร์" ลุงของผู้เสียชีวิต หนึ่งในผู้ต้องสงสัย กลายเป็นซูเปอร์สตาร์  

2 ต.ค.63 พล.ต.อ.สุวัฒน์  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้า และบทสรุปคดีการเสียชีวิต ของ “น้องชมพู่”  

ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี สรุปว่า ในการสืบสวนสอบสวนคดีนี้  สัมภาษณ์พยานบุคคล จำนวน 384 ปาก สอบปากคำเข้าสำนวนการสอบสวน จำนวน 120 ปาก สอบปากคำผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 13 ปาก เก็บวัตถุพยานที่เป็นหลักฐานสำคัญในคดี ตรวจพิสูจน์แล้ว จำนวน 113 ชิ้นโดยเป็นหลักฐานบนที่เกิดเหตุ 16 ชิ้น เก็บตัวอย่าง DNA บุคคล จำนวน 154 ตัวอย่าง สำนวนการสอบสวนมีความหนา 918 หน้า  

การสืบสวนสอบสวนทั้งหมดนำมาสู่คำตอบที่ว่า

“น้องชมพู่ไม่สามารถเดินขึ้นไปบนจุดพบศพบนภูเหล็กไฟได้ด้วยตนเอง”

ด้วย 8 เหตุผล คือ

1. เส้นทางขึ้นภูเหล็กไฟได้มี 4 เส้นทาง ที่ยากลำบากเกินความสามารถของน้องชมพู่ มีเนินชันมากกว่า 60 องศา ขวางกั้นในทุกเส้นทาง สอบปากคำพ่อแม่คนในบ้านบอกน้องชมพู่ยังขึ้นบันไดที่บ้านไม่ถนัดทั้งที่มีความลาดชัดเพียงชัน 45 องศา เท่านั้น ดังนั้นการขึ้นภูด้วยตัวเองเป็นไปไม่ได้

2. พลังงานจากอาหารมื้อสุดท้ายที่น้องชมพู่รับประทานไปไม่เพียงพอต่อการเดินไปบนจุดพบศพ น้องชมพู่รับประทานข้าวไข่เจียว 3 คำ น้ำส้ม 1 ขวดเท่านั้น

3. ประสบการณ์ชาวบ้านยืนยันว่าเด็ก 3 ขวบ จะปีนป่ายไปถึงได้เพียงชั้นที่ 2 ของภูเหล็กไฟเท่านั้น แต่จุดที่พบน้องชมพู่อยู่สูงกว่านั้นมาก

4. กรณีศึกษาการหลงป่า ของ นางทิน เชื้อคมตา ระยะทางพลัดหลงไกลว่าน้องชมพู่ 2 เท่า แต่ชาวบ้านกกตูมชาวบ้านสามารถหาได้เจอภายในคืนเดียว

5. แพทย์ผู้ชันสูตรและกุมารแพทย์ ยืนยืนว่า พัฒนาการของเด็กอายุ 3 ขวบ ไม่สามารถที่จะเดินขึ้นไปเองได้ ณจุดที่พบศพ กุมารแพทย์ยังชี้ว่าพัฒนาการของเด็กไวนี้หากหลงทางห่างจากบ้านไป200 เมตร ยังคงเห็นบ้านตัวเอง และกลับมาได้

6. สภาพศพที่เปลือยกาย ซึ่งบิดาและมารดาของน้องชมพู่ยืนยันว่าน้องชมพู่ไม่สามารถถอดเสื้อเองได้

7. พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ที่ตรวจพบเส้นผมน้องชมพู่ 36 เส้น ถูกตัดหรือเฉือนด้วยมีด เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของบุคคลอื่น เนื่องจากน้องชมพู่ไม่สามารถเฉือนเองได้

8. พ่อ แม่ คนในครอบครัวนิสัยส่วนตัวของน้องชมพู่ กลัวที่สูง กลัวที่มืด กลัวป่า กลัวสุนัข กลัวสวนยาง ที่ผ่านมาของน้องชมพู่ไม่เคยไปในป่าหลังบ้านเลยสักครั้ง พ่อแม่ไม่เคยพาไป

จึงเชื่อได้ว่า มีผู้พาน้องชมพู่ไป และทำให้น้องชมพู่ถึงแก่ความตาย ทั้งทางตรง ทางอ้อม 

ผบ.ตร. เผยผลจับเท็จ "น้องชมพู่" ออกแล้ว แต่ยังไม่ขอพูด

ต่อมาต้นปี 2564 ตำรวจเชิญผู้ต้องสงสัยเข้าเครื่องจับเท็จ หนึ่งในนั้นคือชายไชยพล วิภา "ลุงพล" หลังจากนั้นมีกระแสข่าวเรื่องออกหมายจับ มีเพียงความเคลื่อนไหวของกลุ่มทนาย แต่ในทางคดี พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยืนยันเมื่อต้นดือนกุมภาพันธ์ว่า ยังไม่ออกหมายจับใคร ขณะที่ก่อนหน้านั้นระบุถึงการมีข้อมูลใหม่ ตัวละครใหม่ที่เข้ามาในข้อมูลการสืบสวนสอบสวน

มีรายงานว่า คดีนี้ยังมีหลักฐานสำคัญคือ เส้นผม ที่พบในจุดเกิดเหตุ ที่รอการเปรียบเทียบยืนยัน เชื่อมโยงกับคนร้าย

ทนายตั้ม ตัดพ้อ แค่ไปบ้านกกกอก อุปสรรคเยอะ

 

TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ