นี่เป็นภาพที่นายพศรีอาริยเมตตรัย ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กขณะกำลังอาบน้ำมนต์ให้กับลูกศิษย์ที่สำนักของตัวเอง รวมทั้งภาพขณะนั่งสมาธิอยู่ที่บ้าน พร้อมด้วยผลใบรับรองแพทย์ที่แสดงผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.64 และผลพบว่าไม่ติดเชื้อแล้วในวันที่ 6 พ.ค.64 โดยนายพศรีอาริยเมตตรัย ระบุไว้ว่า “เราพศรีอาริยเมตไตรย สัจจพุทธบารมี สาวกเป็น โรคโควิด-19 ยังกล้าอาบน้ำให้ ด้วยบารมีเราสุดท้ายไปตรวจหายเป็นปกติ ไม่พบเชื้อแล้ว"
ญาติร่างทรงสมิงพราย ยัน คนร่วมพิธียินยอมไม่ได้อนาจาร
คุณยายเมียนมาอายุ 100 ปี หายป่วยโควิด-19
ขณะที่การวิพากย์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ถึงกรณีดังกล่าวว่าการกระทำลักษณะนี้อาจทำให้เกิดคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นหรือไม่
ทีมข่าว PPTV สอบถามผ่านทางโทรศัพท์กับนายพศรีอาริยเมตตรัย ถึงกรณีดังกล่าว เปิดเผยว่า มีลูกศิษย์ติดเชื้อโควิด-19 จริง เป็นหญิง อายุ 47 ปี ทำงานอยู่แถวคลองเตย ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. จากนั้นเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล มีภาวะปอดติดเชื้อ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.-29 เม.ย. ก่อนตรวจอีกครั้งไม่พบเชื้อก็ได้ออกจากโรงพยาบาล
จากนั้นจึงเดินทางมาหาตนเพื่อทำพิธีรดน้ำมนต์เสริมบารมี และไปตรวจหาเชื้ออีกครั้งในวันที่ 6 พ.ค. ผลก็เป็นลบไม่พบเชื้อ โดยตนเชื่อว่าโควิดเป็นโรคกรรม แก้ได้ด้วยการสอนลูกศิษย์ให้รักษาตัวเองตั้งแต่อยู่ในโรงพยาบาลด้วยการนั่งสมาธิเพื่อรักษาโรค ลูกศิษย์ก็ปฏิบัติมาตลอด และเมื่อออกจากโรงพยาบาลก็มาอาบน้ำมนต์ จึงเชื่อว่าลูกศิษย์หายได้เพราะปฏิบัติตามแนวคำสอนของตน
นอกจากนี้นายพศรีอาริยเมตตรัย อ้างว่ายังรักษาโรคอื่นๆได้ด้วย เช่น มะเร็ง โรคเส้นเลือดในสมอง ติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งก็มีหลายคนที่ปฏิบัติตามคำสอนของตนแล้วรักษาหาย เพราะเชื่อว่าโรคเหล่านี้เป็นโรคกรรม หากปฏิบัติสมาธิ อาบน้ำมนต์บารมี ก็จะหายได้เช่นกัน
นายพศรีอาริยเมตตรัย บอกว่าตนไม่ได้หลอกลวงหรือขอเรี่ยไรเงินจากลูกศิษย์ มีเพียงลูกศิษย์ที่เมื่อตนรักษาโรคต่างๆให้หายก็จะนำเงินหรือสิ่งของมาให้เป็นการตอบแทน ซึ่งการจะมาเป็นลูกศิษย์เพื่อรับน้ำมนต์ได้ก็จะต้องมีความศรัทธายึดมั่นตามคำสอนของตนเสียก่อน โดยจะคิดค่าครูครั้งละ 99-199 บาท ส่วนคนไหนที่ไม่ใช่ลูกศิษย์จะไม่ทำพิธีให้เด็ดขาด
ส่วนที่ตนตัดสินใจออกมาโพสต์ ยืนยันว่า ตอนโพสต์มีสติดี ประเด็นที่บอกว่าสื่ออยากให้สัมภาษณ์ก็โอนเงินมา 10,000 บาท ตนยอมรับว่าพูดจริงแต่หมายถึงบางสื่อเท่านั้น
ขณะที่ด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า การทำพิธีอาบน้ำมนต์ การทำพิธีต่างๆ หรือ การทานอาหารเสริม แล้วอ้างว่าสามารถรักษาโควิด-19 ให้หายได้นั้นไม่เป็นความจริง เพราะผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่จะหายเองได้หากอาการไม่รุนแรง ขออย่าให้ประชาชนหลงเชื่อ
รศ.ดร.เจษฎา ยังเตือนอีกว่า หากผู้ป่วยไปหลงเชื่อทำพิธีกรรมแทนที่จะไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาจทำให้อาการของโรคทวีความรุนแรงขึ้น ส่วนการเกิดคลัสเตอร์ใหม่อาจยังไม่น่ากังวลเพราะยังมีคนเชื่อน้อย ยังไม่ได้มีการรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก