คดียังไม่จบ! ผบ.ตร.ทิ้งปริศนา เปิดใจ คดีฆาตกรรม "น้องชมพู่" เผยเบื้องหลัง 1 ปี กว่าจะจับ "ลุงพล"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ผบ.ตร.ระบุคดีน้องชมพู่ ยังไม่จบ เปรียบเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ยันหมายจับ ออกตามพยานหลักฐาน ข้อหาตามที่พบ มั่นใจ เผยเบื้องหลัง 1 ปี กว่าจะจับ "ลุงพล"

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 เวลา 11.45 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึงการคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่หายจากบ้านพักในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 63 ก่อนถูกพบเสียชีวิต ร่างเปลือย บนเขาภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก ห่างจากบ้านพักราว 2 กิโลเมตร เมื่อค่ำวันที่ 14 พ.ค.64 ผ่านมา 1 ปี 16 วัน พนักงานสอบสวน ขออนุมัติศาลจังหวัดมุกดาหาร ออกหมายจับ "ลุงพล" นายไชย์พล วิภา ลุงเขย

มากกว่าเส้นขน เส้นผม เจาะลึกหลักฐาน "คดีน้องชมพู่" 4 สมมติฐานชี้ตัวคนร้าย ทำไม "ลุงพล" เป็นผู้ต้องสง...

เตรียมหิ้ว "ลุงพล"ขึ้น ฮ.กลับกกตูม จ.มุกดาหาร เข้ามอบตัวชุลมุน ผบ.ตร.ไม่ให้พบ ตำรวจดักรวบ

 

คดีนี้หลังข่าวการออกหมายจับแพร่ออกไป สังคมบางส่วนตั้งคำถามว่า เหตุใดไม่แจ้งข้อหาฆาตกรรม ฆ่าผู้อื่นฯ แก่ "ลุงพล" มีผู้ต้องหาสมรู้ร่วมคิด ร่วมก่อเหตุมากกว่านี้หรือไม่ 

  • แจ้งข้อหาตามหลักฐาน ลุงพล ทำให้น้องชมพู่ถึงแก่ความตาย

ผบ.ตร. กล่าวถึงคดีนี้ว่า เราทำตามพยานหลักฐานที่รวบรวมไว้แล้วไปขอหมายก็ต้องดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนพยานหลักฐานมีการพูดถึงกันเยอะมาก แต่ไม่สามารถออกมาพูดรายละเอียดได้

"ยืนยันถ้าไม่มีพยานหลักฐานตำรวจไม่สามารถขอหมายจับได้ เราจะตั้งข้อหาใครก็พยานหลักฐานเท่านั้น ตอนนี้พยานหลักฐานเท่าที่มี ได้ข้อหานี้ ขณะนี้ทีมสืบสวนสอบสวนได้ข้อยุติ สรุปแล้วว่าแจ้งข้อหาตามนี้ ขอหมายศาลตามนี้" 

ศาลจังหวัดมุกดาหารได้ออกหมายจับ ที่ จ 53 /2564 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2564 จำนวน 3 ข้อหาหลัก ประกอบด้วย 1. พรากเด็กอายุไม่เกิน15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร 2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และ 3.กระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป

  • ลุงพลไม่ได้มอบตัว เป็นการจับกุมตามหมายจับ

"อย่างไรก็ตามตำรวจมีหน้าที่ของเรา เมื่อเจอผู้ต้องหาก็จับ ทั้งนี้ได้รับทราบจากชุดสืบสวนว่า เป็นการจับตัว"

"ส่วนเรื่องการประกันตัวเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนพิจารณา ให้ติดตามดู  ต้องพิจารณาว่าจะมีใครมาขอยื่นประกันตัวหรือไม่ และอยู่ที่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนว่าจะพิจารณาอย่างไร คงไปตอบก่อนไม่ได้ อยากประกันก็ยื่นมาก็จะพิจารณาดู"

ผบ.ตร.ระบุว่า วันนี้ ที่ลุงพลเดินทั้งนี้ชุดสืบสวนทามาที่ ตร. ตำรวจได้แสดงหมายจับ อ่านข้อหา และแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหารับทราบ หลังจากนี้จะต้องส่งตัวไปลงบันทึกการจับกุมตัวที่ สน.ปทุมวัน ก่อนจะนำตัวขึ้นเครื่องบินเพื่อส่งตัวไปให้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคือสภ.กกตูม จ.มุกดาหาร พนักงานสอบบสวนก็ต้องไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายซึ่งมีเวลาควบคุมตัวไว้ที่ตำรวจ 48 ชั่วโมง หลังจากนั้นหากจำเป็นต้องสอบสวนต่อ ก็ต้องนำตัวไปฝากขังที่ศาล เวลาในการคุมตัวขึ้นอยู่หับพนักงานสอบสวนเห็นเหตุผลความจำเป็น 

  • มีหลักฐานเพิ่ม สามารถเพิ่มข้อหาได้

เมื่อถามว่าจะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจาก 3 ข้อหานี้หรือไม่ หากพบพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติม พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า หากยังไม่หมดเวลาก็มีเวลาทำก็จะทำไปเรื่อยๆ แต่เมื่อมีการจับกุมแล้วก็จะมีเวลา ในการจะต้องทำให้เสร็จในเวลาเท่าไหร่

เรื่องที่มีผู้กังขาในหลักฐาน ผบ.ตร.กล่าวว่า เรามั่นใจของเรา คนอื่นจะคิดอย่างไรก็เรื่องของเขา ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน หากคนอื่นจะคิดอย่างไรก็เป็นสิทธิของเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจทำไปตามกฎหมาย ตามพยานหลักฐาน ถ้าเรามีมากกว่านี้เราก็อยากให้มี แต่มันทำมาแล้วมันเป็นอย่างนี้ 

"ผมย้ำว่าเราทำตามพยานหลักฐาน ไม่ได้ทำตามใจใคร ส่วนใครจะพอใจ ไม่พอใจ เอาที่สบายใจ"

  • ตอนนี้ออกหมายจับ แค่คนเดียว พบใครร่วมหมายจับมีแน่

พล.ต.อ.สุวัฒน์  ย้ำว่า ณ วันนี้ยืนยันว่าออกหมายจับได้ 1 คน หากมีมากกว่านี้ก็ต้องทำอยู่แล้ว เพราะตำรวจทำงานมาตลอด ไม่ได้ทิ้งไปไหน ถ้ามีมากกว่านี้ก็ทำเลย ตอนนี้ถ้ายังไม่มีอะไรมากกว่านี้ก็แค่นี้ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ว่าหลังหมายจับออกแล้ว และเป็นที่ทราบกันว่านายไชย์พลถูกออกหมายจับ แต่มีการพานายไชย์พลเข้ามาที่กรุงเทพฯ จะเป็นการหลบหนีหมายจับหรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า จะต้องดูพฤติการณ์และเจตนาต่างๆ ประกอบ และต้องรับฟังพยานหลักฐานอื่นด้วย คงตอบตรงนี้ไม่ได้

ผบ.ตร.ระบุว่า คงไม่ไปปสอบปากคำลุงพลด้วยตัวเอง เพราะมั่นใจในทีมสืบสวน มันเป็นคดีฆาตกรรม รายละเอียดหลายอย่างที่ไม่ควรจะออกมาสู่สาธารณะก็ออกมาเยอะมากเลย มีทั้งผิดและถูกปนเปกันไป มาเป็นปีแล้ว

  • คดีนี้ยังไม่จบ บอกแม่น้องชมพู่ ทำตามสัญญาแล้ว

"คดีนี้เหมือนคดีอื่นๆ ที่ทำมาในชีวิตบางเรื่องหลายปีแล้วยังปิดไม่ได้ก็มี หลายปีแล้ว ทำคดีมีได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำได้ก็ดีใจ แต่ว่าถ้าเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลอันนี้พึ่งเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ที่แข่งมาก่อนหน้านี้รอบคัดเลือกบางทีมก็เก่งมากเลย พอรอบสุดท้ายตกรอบก็มี บางทีสภาพไม่ดีแต่พอถึงรอบสุดท้ายอาจจะได้แชมป์ก็ได้  ต้องสู้กันอีกหลายศาลก็ต้องว่ากันไป ตราบใดที่ยังไม่มีการตัดสินผู้ที่ถูกกล่าวหาก็ต้องถือเป็นผู้บริสุทธิ์"

ถามต่อว่าแม่ของน้องชมพู่ติดตามการแถลงในครั้งนี้อยู่ตลอด อยากจะฝากอะไรถึงครอบครัวน้องชมพู่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า “ฝากว่าทีมตำรวจเราเคยรับปากไว้ ว่าจะทำให้ดีที่สุด เราก็ทำตามสัญญา แต่ว่ามันยังไม่จบ เราก็ยังจะทำต่อไป”

หลักฐานเด็ด ปิดเกมน็อก "ลุงพล" ผู้ต้องหา "คดีน้องชมพู่" ทำถึงแก่ความตาย เปิดข้อหา โทษหนัก

  • พิจารณาการแจ้งข้อหาทุกมิติ ใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มี 

ผบ.ตร.กล่าวถึงเรื่องข้อกฎหมาย การแจ้งข้อกล่าวหาในคดีนี้ การพิจารณาแจ้งข้อหา ป.อาญา มาตรา 306 ที่เทียบเคียงข้อหามิได้มีเจตนาฆ่าตาม ป.อาญามาตรา 290 ว่า การพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่างๆ พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้ว เมื่อถึงชั้นอัยการอาจเปลี่ยนแปลงได้ อาจมีความเห้นต่าง เรื่องข้อกฎหมาย เรื่องการเล็งเห็นผล ประสงค์ต่อผล เรื่องนี้พนักงานสอบสวนเถียงกันมาเป็นเดือน เรื่องนี้อัยการจะพิจารณาว่าจะสั่งคดีอย่างไร และยังมีกระบวนการชั้นศาลอีก ว่าไปตามขั้นตอน

พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าว ว่า คดีนี้มีการใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เราใช้ทุกอย่างที่เรามีในการทำงาน เรามองไปนอกองค์กรว่ามีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรบ้างที่นำมาใช้ได้บ้าง แต่ตนไม่ขอเปิดเผยเพราะเกรงจะกระทบกระเทือนการปฏิบัตินหน้าที่

  • ฝากบทเรียนสังคม ปมไต่สวนบนโลกโซเชียล

"เรื่องหนึ่งคดีนี้ ขอฝากสังคมเป็นบทเรียน เป็นอุทาหรณ์ว่าคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรม  ซับซ้อนหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่แตกต่างจากคดีอื่น คือการไต่สวนบนโลกโซเชียลฯ ซึ่่งเคยเกิดปรากฏการณ์แบบนี้ในคดีเกาะเต่า มีการไต่สวนกัน แต่ครั้งนี้หนักกว่าครั้งที่แล้ว ผมไม่อยากจะเชื่อว่ามีประชาชนหลายคนติดตามคดีนี้จนเสพติดชนิดกินไม่ได้นอนไม่หลับ เกิดอาการแบบนั้น อาจเพราะภูมิคุ้มกันในเรื่องโซเชียลฯ ไม่เพียงพอ แล้วสังคมเราก็เกิดปรากฏการณ์ประหลาดๆ หากเทียบเคียงกับในต่างประเทศ ก็มีเหตุการณ์แบบนี้ มีการไต่สวนตั้งข้อหาแตกประเด็น ลากยาวไปถึงเรื่องไสยศาสตร์วิทยา ซึ่งเป็นบทเรียนกับตัวผมเองด้วยว่ามันไปได้ถึงขนาดนี้ ก็ฝากว่า เสพเรื่องพวกนี้ให้ใช้วิจารณญาณ บางคนถาม บอกว่าให้หยุดตามคดีนี้ซัก 2 อาทิตย์แล้วสุขภาพจิตท่านก็จะดีขึ้น" 

  • ใช้ทุกศาสตร์ ก่อนออกหมายจับลุงพล

"คดีนี้เราใช้นิติวิทยาศาสตร์ประกอบกับวิชาการหลายอย่าง ไม่มีศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งเพียงอย่างเดียวที่จะพิสูจน์ความผิดได้"

"บางคนถามว่าทำไมมันนานมันช้า ตนก็บอกว่ามันก็มีศาสตร์ใหม่ๆ ที่เราเอามาใช้ในเรื่องนี้  การเอามาประยุกต์กับการสืบสวนก็ต้องสามารถอธิบายหลักความคิดทางวิชาการของศาสตร์นั้นๆ ว่า ตัดสินแบบนี้ คิดแบบนี้ บนพื้นฐานของหลักวิชาการเรื่องอะไร เราก็ต้องไปหานักวิชาการมารองรับทฤษฎีหรือแนวความคิดแบบนี้"

"เหมือนเราบอกว่าจะคำนวณความเร็วของรถ มีสูตรการคำนวณ พนักงานสอบสวนต้องไปหาว่าคุณเอาสูตรนี้มากจากไหน มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เราจะหาธาตุต่างๆ ที่อยู่ในเส้นผมคน ก็ต้องบอกได้ว่าไปเอาวิชานี้มากจากไหน โลกนี้มีใครยอมรับบ้าง ธาตุเหล่านั้นบอกแะไร ความถูกต้องมีกี่เปอร์เซ็นต์ทฤษฎีโต้แย้งมีหรือไม่"

เมื่อถามว่า มีการใช้หลักพฤติกรรมศาสตร์ พฤติกรรมของลุงพลมาประกอบหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่าเรารวบรวมทุกอย่าง พฤติกรรมมนุษย์ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ วัตถุพยาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม หลักวิชาการต่างๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ทั่วไป หลักพฤติกรรมศาสตร์ แม้กระทั่งไสยศาสตร์และความเชื่อต่างๆ รวบรวมหมดเอามาวิเคราะห์ทั้งหมด แต่คงไม่ต้องระบุว่าตรงไหน วันไหน อย่างไร" ผบ.ตร.กล่าว

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าที่มีการออกหมายจับนายไชย์พลในช่วงนี้ เพื่อต้องการกลบกระแสข่าวศึกอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือไม่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า  ต้องไปถามคนที่โยงเรื่องนี้ ว่าไปเอาพื้นฐานความคิดนี้มาจากไหน 

ผบ.ตร.ระบุว่า กำลังพิจารณาว่าพรุ่งนี้จะแถลงข่าวคดีน้องชมพู่ให้จัดเจนกว่านี้หรือไม่ 


 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP อาชญากรรม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ