"คดีนี้ยังไม่จบ" พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะ "ไดเรกเตอร์"ผู้กำกับทิศทางการสืบสวนสอบสวน คดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เด็กหญิงแห่งบ้านกกกอก เผยหลังคุมตัว "คนร้าย" ลุงพล หรือนายไชย์พล วิภา ลุงเขยของน้องชมพู่ เมื่อเจ้าตัวเดินทางมาขอมอบตัว แต่ตำรวจจับและแจ้ง 3 ข้อหาหลัก ผบ.ตร.เผยว่า หากเปรียบเหมือนฟุตบอลโลก นี่เพียงเข้ารอบสุดท้าย ยังมีการต่อสู้ในชั้นพนักงานอัยการ และชั้นศาลอีกหลายศาล โดยหลักฐานขณะนี้ มีผู้ต้องหาเพียงคนเดียว
หลักฐานเด็ด ปิดเกมน็อก "ลุงพล" ผู้ต้องหา "คดีน้องชมพู่" ทำถึงแก่ความตาย เปิดข้อหา โทษหนัก
คดียังไม่จบ! ผบ.ตร.ทิ้งปริศนา เปิดใจ คดีฆาตกรรม "น้องชมพู่" เผยเบื้องหลัง 1 ปี กว่าจะจับ "ลุงพล"
มีรายงานการสืบสวนสอบสวนคดี ก่อนพนักงานงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับ "ลุงพล" 3 ข้อหาหลัก
- เปิดสำนวนสืบสวน ฆาตรกรรมอำพราง “น้องชมพู่” แผนประทุษกรรม เหตุจูงใจ
ตำรวจตั้ง 3 ประเด็นสำคัญ ชี้ตัวคนร้าย
1. คนร้ายพาเหยื่อไปทิ้งที่ไกลๆ เพื่ออำพรางคดี คนร้ายใกล้ชิดกับเหยื่อ หากปล่อยให้เหยื่อยังมีชีวิต สามารถชี้ยืนยันตัวเองว่าเป็นผู้กระทำผิด จึงต้องอำพรางคดีเพื่อให้ความผิดพ้นตัว
2. ขณะเกิดเหตุน้องชมพู่ อยู่ห่างจากพี่สาว 10 เมตร แต่ไม่ได้ยินเสียงร้อง หากไม่ใช่คนใกล้ชิด น้องชมพู่ซึ่่งเป็นคนหวงตัว จะร้องเสียงดังทันที
3.จุดพบศพบนภูเหล็กไฟ พบรองเท้า รถแบคโฮของเล่นตกอยู่ ยืนยันว่าน้องชมพู่เต็มใจเดินไปกับคนร้าย มิฉะนั้น ของเล่นหรือรองเท้าจะไม่ติดตัวไปถึงจุดพบศพอย่างแน่นอน
ผลการสืบสวนสอบสวน แผนประทุษกรรม
- พยานหลักฐาน พยานบุคคล พยานผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยา นักโภชนาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ สุนัขดมกลิ่น จำลองเหตุการณ์ ผลการตรวจชันสูตรศพ ผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ ยืนยันได้ว่า “ลุงพล” เป็นบุคคลที่พาตัวน้องชมพู่ ไปจากบ้าน
- สายวันที่ 11 พ.ค.63 ลุงพล จะพาน้องชมพู่ไปส่งพระด้วยกัน ระหว่างเดินทาง เกิดเหตุการณ์จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถพาน้องชมพู่ในส่งพระด้วยได้ จึงนำตัวน้องชมพู่ ซึ่งเชื่อว่าหมดสติไปซุกซ่อนไว้บริเวณป่าใกล้เคียง (มีรายงานข้อมูลสุนัขดมกลิ่น)
- แล้วจึงเดินทางไปรับพระเมื่อพบกับพระ ลุงพล จึงเล่าเรื่องราวน้องชมพู่หาย ให้พระฟังในทันทีทันใด ทั้งที่ยังไม่มีผู้ใดทราบเหตุดังกล่าว
- ชาวบ้าน ติดตามค้นหาแต่ยังไม่พบตัว ลุงพล ย้อนกลับมาจุดซ่อนร่าง พบว่าน้องชมพู่ ยังไม่เสียชีวิต จึงนำตัวน้องชมพู่ทิ้งบนภูเหล็กไฟ จนกระทั่งน้องชมพู่เสียชีวิต จากการขาดน้ำและขาดอาหาร ตามความเห็นของแพทย์น้องชมพู่เสียชีวิตในบ่านของวันที่ 12 พ.ค.63 - บ่ายวันที่ 13 พ.ค.63
- จากการตรวจค้นรถยนต์ของลุงพล พบวัตถุพยาน ซึ่่งผลการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ยืนยันได้ว่า วัตถุพยานดังกล่าว เป็นสิ่งของที่มาจากศพของน้องชมพู่หลังจากที่เสียชีวิตแล้ว
- ตรวจพบเส้นผมของบุคคลใกล้ชิดกับลุงพล ตกอยู่บริเวณใกล้ที่พบศพ ทั้งที่บุคคลดังกล่าวไม่เคยขึ้นไปสถานที่พบศพแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าลุงพลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการสภาพศพและสภาพแวดล้อมบริเวณที่พบศพ โดยการถอดเสื้อผ้าจากศพน้องชมพู่ จับถ่างขาให้มีลักษณะเหมือนถูกกระทำชำเรา และใช้มีดหรือของมีคมด้านเดียว สับฟัน เถือ ตัด ไปที่บริเวณเส้นผมของศพน้องชมพู่ (พบในที่เกิดเหตุอย่างน้อย 36 เส้น) เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นการสืบสวนและปกปิดร่องรอยพยานหลักฐานบางอย่างที่ตนอาจทิ้งไว้
- จากนั้นได้นำของบางอย่างจากศพติดตัวลงมาด้วย เพื่อประกอบพิธีกรรมไสยศาสตร์ตามความเชื่อของตน ซึ่งหากลุงพลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ย่อมไม่พบหลักฐานดังกล่าวภายในรถยนต์ของตนเต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ในการรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวันวันนี้ลุงพลสีหน้าเคร่งเครีด ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอให้การที่สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร ท้องที่เกิดเหตุเท่านั้น